Monday, August 31, 2009
Sunday, August 30, 2009
"ฟีม" สุดเซ็งเครื่องพังชวดเก็บ 10 แต้มที่อินดี
รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์ จีพี สุดเซ็งกับผลงานของตัวเองที่เกือบจะเก็บ 10 แต้มจากอันดับที่ 6 ได้สำเร็จในศึกอินเดียนาโพลิส จีพี ทว่าต้องออกจากการแข่งขันในช่วง 2 รอบสุดท้ายเนื่องจากเครื่องพัง
"เจ้าฟีม" ที่ออกตัวจากกริดที่ 9 ในแถวที่ 3 ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งบิดเกาะกลุ่มท็อป 5 ได้แบบมีลุ้น ก่อนที่จะแซงเฮคตอร์ บาร์เบรา นัดบิดสแปนิช ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 6 ได้สำเร็จ ทว่ากลับต้องออกจาการแข่งขันทั้งที่เหลือเพียง 2 รอบสุดท้าย
ซึ่งนักบิดวัย 21 ปีจากทีมไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค เผยด้วยความผิดหวังว่า "ผมออกสตาร์ทได้ไม่เลว ด้วยการขึ้นไปเกาะกลุ่ม 7 อันดับแรก จากนั้นอุบัติเหตุของจูเลส คลูเซล ชิ้นส่วนท่อไอเสียของเขากระเด็นมาถูกตัวผม แต่ยังโชคดีที่รอดมาได้ แต่ผมก็โชคดีไม่ตลอด เมื่อไปสะกิดกับรถของอเล็กซ์ เดอบอง"
"มันทำให้ท่อไอเสียของผมมีปัญหา ขณะเดียวกันผมไม่สามารถใช้คาบูเรเตอร์ได้อย่างเต็มกำลัง จนกระบอกสูบพังไปอีก 1 ตัว นี่คือความน่าเสียดายที่สุด เพราะมันกำลังจะเป็นวันที่ดีที่สุดของผม แต่ต้องมาจบลงเมื่อเหลือเพียง 2 รอบสุดท้าย" หนุ่มฟีมร่ายยาว
อย่างไรก็ดี "เจ้าลิงน้อย" ยังมองโลกในแง่ดีว่า "เราแสดงให้เห็นว่าเรามาถูกทาง สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนของผมที่ต้องเรียนรู้ หน้าที่ต่อไปคือการมองไปที่การแข่งขันสนามหน้าที่ซานมาริโน(5 ก.ย.นี้) ผมหวังว่าจังหวะและโอกาสน่าจะเข้าทางเราบ้าง"
สำหรับเจ้าฟีมเคยจบการแข่งขันดีที่สุดในชีวิตในอันดับที่ 5 ที่เลอ มังส์ ในช่วงต้นฤดูกาล ก่อนที่จะประสบปัญหารถคู่ใจไม่พร้อมสมบูรณ์มาตลอดในช่วงหลัง ส่งผลให้ยังมีแต้มอยู่ที่ 43 คะแนน รั้งอันดับ 14 ในตารางรุ่น 250 ซีซีเช่นเดิม
ที่มา http://www.manager.co.th/
"เจ้าฟีม" ที่ออกตัวจากกริดที่ 9 ในแถวที่ 3 ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งบิดเกาะกลุ่มท็อป 5 ได้แบบมีลุ้น ก่อนที่จะแซงเฮคตอร์ บาร์เบรา นัดบิดสแปนิช ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 6 ได้สำเร็จ ทว่ากลับต้องออกจาการแข่งขันทั้งที่เหลือเพียง 2 รอบสุดท้าย
ซึ่งนักบิดวัย 21 ปีจากทีมไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค เผยด้วยความผิดหวังว่า "ผมออกสตาร์ทได้ไม่เลว ด้วยการขึ้นไปเกาะกลุ่ม 7 อันดับแรก จากนั้นอุบัติเหตุของจูเลส คลูเซล ชิ้นส่วนท่อไอเสียของเขากระเด็นมาถูกตัวผม แต่ยังโชคดีที่รอดมาได้ แต่ผมก็โชคดีไม่ตลอด เมื่อไปสะกิดกับรถของอเล็กซ์ เดอบอง"
"มันทำให้ท่อไอเสียของผมมีปัญหา ขณะเดียวกันผมไม่สามารถใช้คาบูเรเตอร์ได้อย่างเต็มกำลัง จนกระบอกสูบพังไปอีก 1 ตัว นี่คือความน่าเสียดายที่สุด เพราะมันกำลังจะเป็นวันที่ดีที่สุดของผม แต่ต้องมาจบลงเมื่อเหลือเพียง 2 รอบสุดท้าย" หนุ่มฟีมร่ายยาว
อย่างไรก็ดี "เจ้าลิงน้อย" ยังมองโลกในแง่ดีว่า "เราแสดงให้เห็นว่าเรามาถูกทาง สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนของผมที่ต้องเรียนรู้ หน้าที่ต่อไปคือการมองไปที่การแข่งขันสนามหน้าที่ซานมาริโน(5 ก.ย.นี้) ผมหวังว่าจังหวะและโอกาสน่าจะเข้าทางเราบ้าง"
สำหรับเจ้าฟีมเคยจบการแข่งขันดีที่สุดในชีวิตในอันดับที่ 5 ที่เลอ มังส์ ในช่วงต้นฤดูกาล ก่อนที่จะประสบปัญหารถคู่ใจไม่พร้อมสมบูรณ์มาตลอดในช่วงหลัง ส่งผลให้ยังมีแต้มอยู่ที่ 43 คะแนน รั้งอันดับ 14 ในตารางรุ่น 250 ซีซีเช่นเดิม
ที่มา http://www.manager.co.th/
หนุ่มเลี่ยนแชมป์ เสียดาย ‘ฟีม’ ชวดติดท็อป 6 อินดี จีพี
มาร์โก ซิมอนเชลลี ยอดนักบิดชาวอิตาเลียนคว้าแชมป์รุ่น 250 ซีซี ศึกอินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ ขณะที่ “เจ้าฟีม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ น่าเสียดายที่รถมีปัญหาชวดทำอันดับสูงถึงที่ 6 ไปอย่างน่าเสียดาย
ศึกเวิลด์ จีพี สนามที่ 11 ของรุ่น 250 ซีซี รายการอินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ 2009 ที่อินเดียนาโพลิส มอเตอร์ สปีดเวย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันอาทิตย์เป็นการลงบิดชิงชัยกันในรุ่น 250 ซีซี โดย รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ สังกัดไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค ออกตัวในกริดที่ 9
โดยการแข่งขัน 26 รอบ (ระยะทาง 109.616 กิโลเมตร) ปรากฏว่า มาร์โก ซิมอนเชลลี จากทีมกิเลรา ออกสตาร์ทในอันดับ 3 อาศัยจังหวะเบียดแซงทั้ง ไมค์ ดิ เมกลิโอ ตำแหน่งโพลโพซิชัน รวมถึง ฮิโรชิ อาโอยามา เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 45 นาที 43.599 วินาที ขณะที่ อาโอยามา ซึ่งออกตัวกริดที่ 2 คว้ารองแชมป์สนามนี้ไปครอง ด้วยเวลาที่ห่างจากแชมป์ 1.943 วินาที
ซึ่งจากชัยชนะสนามที่อินเดียนาโพลิส ทำให้ ซิมอนเชลลี คว้าชัยได้สองสนามติดต่อกันแล้วในรุ่น 250 ซีซี ทั้งยังเป็นการซิวแชมป์ 3 จาก 4 รายการหลังสุดด้วยของนักบิดประสบการณ์ปีที่ 4
ส่วน รัฐภาคย์ ทำผลงานเยี่ยมบิดขึ้นมาถึงอันดับ 6 ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียงสองรอบ แต่ “เจ้าฟีม” โชคร้ายสุดขีดรถดันมามีปัญหา ทำให้ต้องออกจากการแข่งขัน ชวดมีคะแนนติดมือไปอย่างน่าเสียดาย
ผลการแข่งขัน อินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ รุ่น 250 ซีซี 5 อันดับแรก
1. มาร์โก ซิมอนเชลลี (อิตาลี / กิเลรา) เวลา 45 นาที 43.599 วินาที
2. ฮิโรชิ อาโอยามา (ญี่ปุ่น / ฮอนด้า) ตามหลัง 1.943 วินาที
3. อัลบาโร เบาติสตา (สเปน / อพรีเลีย) ตามหลัง 4.661 วินาที
4. ไมค์ ดิ เมกลิโอ (ฝรั่งเศส / อพรีเลีย) ตามหลัง 12.776 วินาที
5. โรแบร์โต โลคาเตลลี (อิตาลี / กิเลรา) ตามหลัง 15.475 วินาที
สรุปคะแนนรวม 5 อันดับแรก รุ่น 250 ซีซี หลังจบการแข่งขันไป 11 สนาม
1. ฮิโรชิ อาโอยามา (ญี่ปุ่น / ฮอนด้า) 192 คะแนน
2. อัลบาโร เบาติสตา (สเปน / อพรีเลีย) 176 คะแนน
3. มาร์โก ซิมอนเชลลี (อิตาลี / กิเลรา) 165 คะแนน
4. เฮคเตอร์ บาร์เบรา (สเปน / อพรีเลีย) 133 คะแนน
5. แมตเตีย ปาซินี (อิตาลี / อพรีเลีย) 100 คะแนน
14. รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ (ไทย / ไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค) 43 คะแนน
ส่วนผลการแข่งขันในรุ่นโมโต จีพี (28 รอบ) ปรากฏว่า ฮอร์เก ลอเรนโซ ยอดนักบิดชาวสเปนของทีมยามาฮ่า เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 47 นาที 13.592 วินาที ตามมาด้วย อเล็กซ์ เด แองเจลิส (ฮอนด้า) ที่เวลา 47 นาที 23.027 วินาที ขณะที่ นิคกี เฮย์เดน (ดูคาติ) ได้อันดับ 3 เวลา 47 นาที 26.539 วินาที
ที่มา http://www.manager.co.th/
ศึกเวิลด์ จีพี สนามที่ 11 ของรุ่น 250 ซีซี รายการอินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ 2009 ที่อินเดียนาโพลิส มอเตอร์ สปีดเวย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันอาทิตย์เป็นการลงบิดชิงชัยกันในรุ่น 250 ซีซี โดย รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ สังกัดไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค ออกตัวในกริดที่ 9
โดยการแข่งขัน 26 รอบ (ระยะทาง 109.616 กิโลเมตร) ปรากฏว่า มาร์โก ซิมอนเชลลี จากทีมกิเลรา ออกสตาร์ทในอันดับ 3 อาศัยจังหวะเบียดแซงทั้ง ไมค์ ดิ เมกลิโอ ตำแหน่งโพลโพซิชัน รวมถึง ฮิโรชิ อาโอยามา เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 45 นาที 43.599 วินาที ขณะที่ อาโอยามา ซึ่งออกตัวกริดที่ 2 คว้ารองแชมป์สนามนี้ไปครอง ด้วยเวลาที่ห่างจากแชมป์ 1.943 วินาที
ซึ่งจากชัยชนะสนามที่อินเดียนาโพลิส ทำให้ ซิมอนเชลลี คว้าชัยได้สองสนามติดต่อกันแล้วในรุ่น 250 ซีซี ทั้งยังเป็นการซิวแชมป์ 3 จาก 4 รายการหลังสุดด้วยของนักบิดประสบการณ์ปีที่ 4
ส่วน รัฐภาคย์ ทำผลงานเยี่ยมบิดขึ้นมาถึงอันดับ 6 ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียงสองรอบ แต่ “เจ้าฟีม” โชคร้ายสุดขีดรถดันมามีปัญหา ทำให้ต้องออกจากการแข่งขัน ชวดมีคะแนนติดมือไปอย่างน่าเสียดาย
ผลการแข่งขัน อินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ รุ่น 250 ซีซี 5 อันดับแรก
1. มาร์โก ซิมอนเชลลี (อิตาลี / กิเลรา) เวลา 45 นาที 43.599 วินาที
2. ฮิโรชิ อาโอยามา (ญี่ปุ่น / ฮอนด้า) ตามหลัง 1.943 วินาที
3. อัลบาโร เบาติสตา (สเปน / อพรีเลีย) ตามหลัง 4.661 วินาที
4. ไมค์ ดิ เมกลิโอ (ฝรั่งเศส / อพรีเลีย) ตามหลัง 12.776 วินาที
5. โรแบร์โต โลคาเตลลี (อิตาลี / กิเลรา) ตามหลัง 15.475 วินาที
สรุปคะแนนรวม 5 อันดับแรก รุ่น 250 ซีซี หลังจบการแข่งขันไป 11 สนาม
1. ฮิโรชิ อาโอยามา (ญี่ปุ่น / ฮอนด้า) 192 คะแนน
2. อัลบาโร เบาติสตา (สเปน / อพรีเลีย) 176 คะแนน
3. มาร์โก ซิมอนเชลลี (อิตาลี / กิเลรา) 165 คะแนน
4. เฮคเตอร์ บาร์เบรา (สเปน / อพรีเลีย) 133 คะแนน
5. แมตเตีย ปาซินี (อิตาลี / อพรีเลีย) 100 คะแนน
14. รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ (ไทย / ไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค) 43 คะแนน
ส่วนผลการแข่งขันในรุ่นโมโต จีพี (28 รอบ) ปรากฏว่า ฮอร์เก ลอเรนโซ ยอดนักบิดชาวสเปนของทีมยามาฮ่า เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 47 นาที 13.592 วินาที ตามมาด้วย อเล็กซ์ เด แองเจลิส (ฮอนด้า) ที่เวลา 47 นาที 23.027 วินาที ขณะที่ นิคกี เฮย์เดน (ดูคาติ) ได้อันดับ 3 เวลา 47 นาที 26.539 วินาที
ที่มา http://www.manager.co.th/
Saturday, August 29, 2009
Aprlia Tuono 1000 R Factory
Now the Tuono 1000 R Factory has picked up where the victorious Tuono Racing left off, with even better technical characteristics and performance.
With the arrival of the new Factory version, the most racing naked and the meanest on the road clearly demonstrates its racing spirit. The new Tuono 1000 R Factory is a truly professional machine for all those riders who demand the state of the art in technology and the absolute maximum in performance. As with the RSV 1000 R Factory, from which it has been derived, the Tuono 1000 R Factory is designed and built for “total ridability”, a concept that has always characterised high performance Aprilia motorcycles.
The Tuono 1000 R Factory sets new standards for performance nakeds. Now, the Tuono 1000 R Factory has raised the bar even higher, establishing the perfect synthesis between quality, technology, and finish.
The performance of the Tuono 1000 R Factory has been boosted to record levels by adopting the same latest generation engine that powers the RSV 1000 R Factory. Now developing 102 kW (139 HP) at the crank and a maximum torque of nearly 11 kgm at only 8,500 rpm, the Aprilia Tuono R Factory is the uncontested leader of all naked twins.
source via Aprilia
source via Aprilia
Friday, August 28, 2009
สหฯ รุกเปิดประมูลมอ ไซค์มือสอง
สหการประมูลชี้ตลาดรถจักรยานยนต์มือสองต่างจังหวัดยอดขายพุ่ง เผยลูกค้านิยมซื้อเพราะราคาประหยัด ยืนยันไม่คิดขายแข่งรถใหม่เนื่องจากลูกค้าคนละกลุ่ม รวมรถทุกรุ่นทุกยี่ห้อกว่า 300 คัน เปิดประมูลราคาถูกวันเดียวที่จังหวัดสระแก้ว
น.ส.เสาวลักษณ์ ชัยเดชสุริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคมนี้ บริษัทได้กำหนดให้มีการประมูลขายรถจักรยานยนต์มือสองขึ้นที่จังหวัดสระแก้ว ณ ลานประมูล ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาจังหวัดสระแก้ว เวลา 11.00 น. ชมรถวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม ตั้งแต่เวลา 09.00–17.30 น. การประมูลดังกล่าวได้มีการรวบรวมรถยึดทุกรุ่นทุกยี่ห้อจากไฟแนนซ์ต่างๆ กว่า 300 คัน มาเปิดประมูลขายในราคาถูกกว่าตลาดรถจักรยานยนต์มือสองทั่วไป ทั้งนี้ เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ เนื่องจากรถจักรยานยนต์มือสองส่วนใหญ่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและใกล้เคียงรถใหม่ ที่สำคัญยังเป็นยี่ห้อและรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมในตลาด เช่น HONDA WAVE100, HONDA CLICK, YAMAHA MIO, YAMAHA FINO, YAMAHA NOUVO ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จดทะเบียนระหว่างปี 2008-2009 และถูกประเมินราคาขายถูกกว่ารถใหม่ 50-70%
การเปิดประมูลขายรถจักรยานยนต์มือสองนั้นบริษัทไม่มีนโยบายที่จะแข่งขันกับตลาดรถใหม่ เนื่องจากลูกค้าคนละกลุ่ม จึงไม่ได้เสนอเงื่อนไขใดๆ เพื่อจูงใจให้เกิดการซื้อ แต่ที่การประมูลขายรถจักรยานยนต์มือสองได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในต่างจังหวัดค่อนข้างสูง เนื่องจากราคาขายที่ประหยัดกว่า ซึ่งสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้แล้วกลุ่มลูกค้าที่นิยมประมูลซื้อไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ใช้รถเท่านั้น แต่มีธุรกิจและร้านขายรถจักรยานยนต์มือสองเข้าร่วมประมูลซื้อด้วย เนื่องจากข้อได้เปรียบด้านราคา” น.ส.เสาวลักษณ์ กล่าว และให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงทิศทางตลาดรถจักรยานยนต์มือสองว่า ที่ผ่านมาตลาดดังกล่าวใน กทม. ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้ต้องมีการเพิ่มรอบประมูลทั้งที่สำนักงานใหญ่และสาขารังสิต-คลอง 8 ถึง 4 รอบต่อสัปดาห์ๆ ละไม่ต่ำกว่า 200 คัน เมื่อผู้บริโภคให้ความสนใจสูงจึงได้ขยายตลาดในภูมิภาคมากขึ้น ผลปรากฏว่าในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาตลาดมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะการประมูลแต่ละครั้งนั้นสามารถทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 95%
ที่มาhttp://www.banmuang.co.th/
น.ส.เสาวลักษณ์ ชัยเดชสุริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคมนี้ บริษัทได้กำหนดให้มีการประมูลขายรถจักรยานยนต์มือสองขึ้นที่จังหวัดสระแก้ว ณ ลานประมูล ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาจังหวัดสระแก้ว เวลา 11.00 น. ชมรถวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม ตั้งแต่เวลา 09.00–17.30 น. การประมูลดังกล่าวได้มีการรวบรวมรถยึดทุกรุ่นทุกยี่ห้อจากไฟแนนซ์ต่างๆ กว่า 300 คัน มาเปิดประมูลขายในราคาถูกกว่าตลาดรถจักรยานยนต์มือสองทั่วไป ทั้งนี้ เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ เนื่องจากรถจักรยานยนต์มือสองส่วนใหญ่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและใกล้เคียงรถใหม่ ที่สำคัญยังเป็นยี่ห้อและรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมในตลาด เช่น HONDA WAVE100, HONDA CLICK, YAMAHA MIO, YAMAHA FINO, YAMAHA NOUVO ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จดทะเบียนระหว่างปี 2008-2009 และถูกประเมินราคาขายถูกกว่ารถใหม่ 50-70%
การเปิดประมูลขายรถจักรยานยนต์มือสองนั้นบริษัทไม่มีนโยบายที่จะแข่งขันกับตลาดรถใหม่ เนื่องจากลูกค้าคนละกลุ่ม จึงไม่ได้เสนอเงื่อนไขใดๆ เพื่อจูงใจให้เกิดการซื้อ แต่ที่การประมูลขายรถจักรยานยนต์มือสองได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในต่างจังหวัดค่อนข้างสูง เนื่องจากราคาขายที่ประหยัดกว่า ซึ่งสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้แล้วกลุ่มลูกค้าที่นิยมประมูลซื้อไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ใช้รถเท่านั้น แต่มีธุรกิจและร้านขายรถจักรยานยนต์มือสองเข้าร่วมประมูลซื้อด้วย เนื่องจากข้อได้เปรียบด้านราคา” น.ส.เสาวลักษณ์ กล่าว และให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงทิศทางตลาดรถจักรยานยนต์มือสองว่า ที่ผ่านมาตลาดดังกล่าวใน กทม. ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้ต้องมีการเพิ่มรอบประมูลทั้งที่สำนักงานใหญ่และสาขารังสิต-คลอง 8 ถึง 4 รอบต่อสัปดาห์ๆ ละไม่ต่ำกว่า 200 คัน เมื่อผู้บริโภคให้ความสนใจสูงจึงได้ขยายตลาดในภูมิภาคมากขึ้น ผลปรากฏว่าในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาตลาดมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะการประมูลแต่ละครั้งนั้นสามารถทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 95%
ที่มาhttp://www.banmuang.co.th/
Mrs. Motorcycle Bolted on me!
The other morning as I was getting ready for work, My wife comes back in the house after leaving for work herself. She said, "Mr. M., Something is seriously wrong with my Saturn. I need you to come look at it. I was driving along, and heard a pop, then clunk, clunk, clunk. I stoped and looked, but no flat tire! I want you to look." I took the car for a drive, and noticed it when I was pulling out the driveway. I needed to go no further than 1/2 of a block away from my house to realize there was something wrong with the left rear wheel. I pulled it back into the garage to see a bolt stuck into the tread at the back side on the line of tread, and sidewall.
This is what I found!
This put an interesting spin onto my day.
I got a plug put into the tire, drove her vehicle for the day. She took mine, and I got a new set of rear tires on it during the day.
I got my wife to get me a case and a half of beer later on that day for being such a good boy!
Motorcycle Pictures of the Week - Linda and Rollsroyce77
Here are my Pictures of the Week as displayed on the Motorcycle Views Website. These are taken from the Moto Pic Gallery. See Linda on her 2003 Harley-Davidson Dyna Low Rider. Also see Rollsroyce77 on his 2002 Honda VTX1800 Retro. For details, see Motorcycle Pictures of the Week.
If you'd like to see your bike as Picture of the Week, submit a picture of you and your bike along with a description of the bike.
If you'd like to see your bike as Picture of the Week, submit a picture of you and your bike along with a description of the bike.
ปากีฯแบนรถมอเตอร์ไซค์ติดก๊าซ
ปากีสถาน ได้ออกประกาศห้ามใช้รถจักรยานยนต์ติดก๊าซธรรมชาติ ซีเอ็นจี โดยให้เหตุผลว่า การติดตั้งดังกล่าวไม่ได้เข้าข่ายของระเบียบว่าด้วยการติดตั้งก๊าซสำหรับยานยนต์ และแจ้งไปยังสถานีบริการก๊าซ ผู้ได้รับใบอนุญาตติดตั้งและผู้ใช้รถ
สำหรับประกาศดังกล่าวได้เกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้ประกอบการได้มีการนำรถจักรยานยนต์ที่มีการติดตั้งพร้อมชุดอุปกรณ์ก๊าซธรรมชาติมาจำหน่าย โดยไม่ได้ขออนุญาตจากรัฐบาล ดังนั้นจึงต้องระงับไม่ให้ใช้รถประเภทดังกล่าว ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันนี้ปากีสถานยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการดัดแปลงรถจักรยานยนต์เพื่อใช้ก๊าซธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลก็พร้อมที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นและพร้อมที่จะพิจารณารถประเภทดังกล่าว
ก่อนหน้านี้อาร์เจนตินาได้มีการผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ประกอบเสร็จจากโรงงานพร้อมกับชุดติดตั้งก๊าซธรรมชาติ เพื่อตอบสนองกลุ่มที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงที่น้ำมันแพง โดยบริษัทที่มีชื่อว่า ซาเนลล่า (Zanella) ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ของอาร์เจนตินา เตรียมเปิดตัวรถจักรยานยนต์พลังงานทางเลือกจากก๊าซซีเอ็นจี โดยรถรุ่นใหม่ล่าสุดที่จะเปิดตัวราวเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 150 ซีซี สามารถติดตั้งถังก๊าซจำนวน 2 ถัง วิ่งได้ระยะทางราว 200 กิโลเมตร
รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีจาก ECOP Rosario ซึ่งเป็นบริษัทแห่งแรกที่ได้รับการอนุมัติให้สามารถผลิตระบบก๊าซที่ติดตั้งในรถจักรยานยนต์ได้ โดยรถรุ่นใหม่นี้จะสามารถประหยัดพลังงานได้ราว 6 เท่า และเตรียมแผนที่จะติดตั้งให้กับรถยนต์ยี่ห้อและรุ่นอื่นๆที่ขายในอาร์เจนตินา รวมถึงการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆในอนาคตอีกด้วย โดยได้เริ่มส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ ด้านจีนก็ได้มีการพัฒนารถดังกล่าวออกมาจำหน่ายด้วยเช่นกัน
สำหรับตลาดอุปกรณ์ก๊าซติดในรถจักรยานยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทยนั้นในช่วงที่ผ่านมามีผู้จำหน่ายบางรายได้รับติดตั้งก๊าซสำหรับรถจักรยานยนต์ ซึ่งการติดตั้งดังกล่าว ยังไม่ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัย ทำให้ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ติดตั้งก๊าซยังมีจำนวนไม่มากนัก อีกทั้งรถจักรยานยนต์นั้นสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ คาดว่าในอนาคต รถจักรยานยนต์ที่ติดตั้งก๊าซจะไม่ได้รับความนิยม
ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี หรือที่เรียกว่า ซีเอ็นจีนั้นได้เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ปัจจุบันอาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีการใช้รถจากพลังงานซีเอ็นจีมากที่สุดในโลก ซึ่งราคาของก๊าซจะถูกกว่าน้ำมัน
ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
สำหรับประกาศดังกล่าวได้เกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้ประกอบการได้มีการนำรถจักรยานยนต์ที่มีการติดตั้งพร้อมชุดอุปกรณ์ก๊าซธรรมชาติมาจำหน่าย โดยไม่ได้ขออนุญาตจากรัฐบาล ดังนั้นจึงต้องระงับไม่ให้ใช้รถประเภทดังกล่าว ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันนี้ปากีสถานยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการดัดแปลงรถจักรยานยนต์เพื่อใช้ก๊าซธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลก็พร้อมที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นและพร้อมที่จะพิจารณารถประเภทดังกล่าว
ก่อนหน้านี้อาร์เจนตินาได้มีการผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ประกอบเสร็จจากโรงงานพร้อมกับชุดติดตั้งก๊าซธรรมชาติ เพื่อตอบสนองกลุ่มที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงที่น้ำมันแพง โดยบริษัทที่มีชื่อว่า ซาเนลล่า (Zanella) ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ของอาร์เจนตินา เตรียมเปิดตัวรถจักรยานยนต์พลังงานทางเลือกจากก๊าซซีเอ็นจี โดยรถรุ่นใหม่ล่าสุดที่จะเปิดตัวราวเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 150 ซีซี สามารถติดตั้งถังก๊าซจำนวน 2 ถัง วิ่งได้ระยะทางราว 200 กิโลเมตร
รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีจาก ECOP Rosario ซึ่งเป็นบริษัทแห่งแรกที่ได้รับการอนุมัติให้สามารถผลิตระบบก๊าซที่ติดตั้งในรถจักรยานยนต์ได้ โดยรถรุ่นใหม่นี้จะสามารถประหยัดพลังงานได้ราว 6 เท่า และเตรียมแผนที่จะติดตั้งให้กับรถยนต์ยี่ห้อและรุ่นอื่นๆที่ขายในอาร์เจนตินา รวมถึงการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆในอนาคตอีกด้วย โดยได้เริ่มส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ ด้านจีนก็ได้มีการพัฒนารถดังกล่าวออกมาจำหน่ายด้วยเช่นกัน
สำหรับตลาดอุปกรณ์ก๊าซติดในรถจักรยานยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทยนั้นในช่วงที่ผ่านมามีผู้จำหน่ายบางรายได้รับติดตั้งก๊าซสำหรับรถจักรยานยนต์ ซึ่งการติดตั้งดังกล่าว ยังไม่ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัย ทำให้ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ติดตั้งก๊าซยังมีจำนวนไม่มากนัก อีกทั้งรถจักรยานยนต์นั้นสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ คาดว่าในอนาคต รถจักรยานยนต์ที่ติดตั้งก๊าซจะไม่ได้รับความนิยม
ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี หรือที่เรียกว่า ซีเอ็นจีนั้นได้เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ปัจจุบันอาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีการใช้รถจากพลังงานซีเอ็นจีมากที่สุดในโลก ซึ่งราคาของก๊าซจะถูกกว่าน้ำมัน
ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
"ฟีม" เชื่อติดแถวหน้าได้หากทีมงานเซ็ตรถลงตัว
รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดสังกัดไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค ในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่น 250 ซีซี ยังเชื่อมั่นว่าตนเองมีสิทธิ์ทำทำผลงานติดกลุ่มผู้นำได้ หากรถแข่งคู่ใจได้รับการเซ็ตอัพที่ลงตัวกว่าที่ผ่านๆมาจากทีมงานสต็อป แอนด์ โก
ฟีมเคยทำผลงานชิ้นโบว์แดงในฤดูกาล 2008 ที่ผ่านมา ด้วยการเป็นนักบิดคนเดียวของรุ่น 250 ซีซี ที่จบการแข่งขันได้ทุกสนาม ทว่าในปีนี้ กลับไม่จบการแข่งขันเนื่องจากรถมีปัญหาไปแล้ว 1 ครั้ง ทั้งยังประสบอุบัติเหตุออกจากการแข่งขันอีก 2 สนาม
อย่างไรก็ดีนักบิดหน้าตี๋จากประเทศไทย ยังคงเชื่อมั่นในรถฮอนด้า RS250RW ว่าจะสามารถพาตนเองจบการแข่งขันในอันดับที่สูงๆรวมถึงขึ้นโพเดียมได้ หากได้รับการเซ็ตอัพที่ลงตัว รวมถึงจังหวะต่างเป็นใจกว่าที่ผ่านมา
"จริงๆแล้วรถของเราโอเคอยู่แล้ว ดูจากที่ ฮิโรชิ อาโอยามา (ใช้รถสเปกเดียวกัน) ก็กำลังคั่วแชมป์โลกอยู่ แต่เนื่องจากที่ผ่านมาเรา(ทีมงานสต็อป แอนด์ โก)ยังเซ็ตอัพเครื่องยนต์ตอนแข่งยังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ผลการแข่งขันไม่เป็นที่น่าพอใจ"
"ที่ผ่านมาทั้งผมและทีมงานก็ทำงานหนัก หากดูเวลาต่อรอบของเราไม่ได้ต่างกันเลยในตอนซ้อม มันเป็นจังหวะที่ยังไม่ลงตัว เพราะบางครั้งที่รถดี ผมก็ดันมีอาการบาดเจ็บ โอกาสดีๆของเราเลยยังไม่ค่อยมี " ฟีมร่ายยาวผ่าน MGR Sport
สำหรับฟีมมีคิวลงทำศึกเวิลด์ จีพี สนามที่ 11 ของรุ่น 250 ซีซี ในรายการอินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ 2009 ที่อินเดียนาโพลิส มอเตอร์ สปีดเวย์ สหรัฐอเมริกา โดยจะแข่งขันกันในช่วงเที่ยงคืน ของคืนวันอาทิตย์ที่ 30 ส.ค.นี้ ตามเวลาประเทศไทย
ที่มา http://www.manager.co.th/
ฟีมเคยทำผลงานชิ้นโบว์แดงในฤดูกาล 2008 ที่ผ่านมา ด้วยการเป็นนักบิดคนเดียวของรุ่น 250 ซีซี ที่จบการแข่งขันได้ทุกสนาม ทว่าในปีนี้ กลับไม่จบการแข่งขันเนื่องจากรถมีปัญหาไปแล้ว 1 ครั้ง ทั้งยังประสบอุบัติเหตุออกจากการแข่งขันอีก 2 สนาม
อย่างไรก็ดีนักบิดหน้าตี๋จากประเทศไทย ยังคงเชื่อมั่นในรถฮอนด้า RS250RW ว่าจะสามารถพาตนเองจบการแข่งขันในอันดับที่สูงๆรวมถึงขึ้นโพเดียมได้ หากได้รับการเซ็ตอัพที่ลงตัว รวมถึงจังหวะต่างเป็นใจกว่าที่ผ่านมา
"จริงๆแล้วรถของเราโอเคอยู่แล้ว ดูจากที่ ฮิโรชิ อาโอยามา (ใช้รถสเปกเดียวกัน) ก็กำลังคั่วแชมป์โลกอยู่ แต่เนื่องจากที่ผ่านมาเรา(ทีมงานสต็อป แอนด์ โก)ยังเซ็ตอัพเครื่องยนต์ตอนแข่งยังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ผลการแข่งขันไม่เป็นที่น่าพอใจ"
"ที่ผ่านมาทั้งผมและทีมงานก็ทำงานหนัก หากดูเวลาต่อรอบของเราไม่ได้ต่างกันเลยในตอนซ้อม มันเป็นจังหวะที่ยังไม่ลงตัว เพราะบางครั้งที่รถดี ผมก็ดันมีอาการบาดเจ็บ โอกาสดีๆของเราเลยยังไม่ค่อยมี " ฟีมร่ายยาวผ่าน MGR Sport
สำหรับฟีมมีคิวลงทำศึกเวิลด์ จีพี สนามที่ 11 ของรุ่น 250 ซีซี ในรายการอินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ 2009 ที่อินเดียนาโพลิส มอเตอร์ สปีดเวย์ สหรัฐอเมริกา โดยจะแข่งขันกันในช่วงเที่ยงคืน ของคืนวันอาทิตย์ที่ 30 ส.ค.นี้ ตามเวลาประเทศไทย
ที่มา http://www.manager.co.th/
Thursday, August 27, 2009
โปรเรซซิ่งเพิ่มรุ่นแข่งจักรยานยนต์
"พัทยาโปรเรซซิ่งซีรีส์ 2009" ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สนามที่ 3 เสาร์และอาทิตย์ที่ 29-30 ส.ค.นี้ ผู้จัดเพิ่มกิจกรรมแสดงรถเครื่องเสียง มอเตอร์ไซค์สตันต์โชว์และแรลลี่ท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมเสริม นอกเหนือจากการเพิ่มแข่งรถจักรยานยนต์ขึ้นอีก 2 รุ่น ถ่ายทอดสดให้ชมกันในวันอาทิตย์ ระหว่าง 15.00-17.00 น. ทาง T Sport Channel และ True Visions ช่อง 68 ใน 4 รายการใหญ่ ทั้งซุปเปอร์ไบค์ 1000 โปร รุ่นแฟมิลี่ และรถยนต์โปรคาร์และโปรทรัค
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
คุณพร้อมแล้วหรือยังกับความมันส์...ที่คอบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษต้องห้ามพลาด !
บริษัท ไทยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้จัดกิจกรรมออนไลน์ เกมยามาฮ่าพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009 -2010 ให้แฟนๆคอบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้ร่วมสนุก ลุ้นมันส์...กันแมทช์ต่อแมทช์ ชิงรางวัลกันทุกเดือน พร้อมลุ้นรับรางวัลใหญ่ปลายปี 2009 อาทิ Notebook , เกม PSP, กล้องถ่ายรูป, เครื่องเล่น MP3 และของพรีเมียมอีกมากมาย ระเบิดความมันส์แล้วที่นี่ http://www.yamaha-motor.co.th/PML09/
ที่มา www.yamaha-motor.co.th
Wednesday, August 26, 2009
นิตยสารนักเลงมอเตอร์ไซค์ เล่มที่ 09:09
ในเล่ม:
- แกะกล่องลองขี่ Honda Click i B.O. Project นอกจากสีแล้วมีอะไรใหม่
- จับจังหวะจูน ของที่ใหญ่กว่า มันดีกว่าจริงหรือ?
- KAWASAKI ER-6n แรงและเร็วเท่ๆแบบ Naked Roadster
- HUSQVARNA SM 530 RR ซูเปอร์โมโตพันธุ์แท้
- YAMAHA Mio Drag Racing 402 11.5 ตัวเลขตัวแรงจาก "อ้อมน้อย"
- สัมผัสล่าสุด BENELLI Cafe Racer
HUSQVARNA SM 530 RR
HONDA CBR 1000 RR
SUZUKI GSX-R 1000 K9
KAWASAKI VN 1700 Nomad
DUCATI Monster 696
KTM 990 Super Duke R
- ยัดคาร์บูเรเตอร์ "โต" (ภาคอัพเดท) เที่ยวแล้วไม่สะใจ ยัดใส่ด้วยขนาด 18 มม.
- ล้วงลึกกับระบบ "คอมบาย เบรค"
- 2003 HARLEY-DAVIDSON FLSTF Fat Boy
- Yamaha Maxam 250
- แกะกล่องลองขี่ Honda Click i B.O. Project นอกจากสีแล้วมีอะไรใหม่
- จับจังหวะจูน ของที่ใหญ่กว่า มันดีกว่าจริงหรือ?
- KAWASAKI ER-6n แรงและเร็วเท่ๆแบบ Naked Roadster
- HUSQVARNA SM 530 RR ซูเปอร์โมโตพันธุ์แท้
- YAMAHA Mio Drag Racing 402 11.5 ตัวเลขตัวแรงจาก "อ้อมน้อย"
- สัมผัสล่าสุด BENELLI Cafe Racer
HUSQVARNA SM 530 RR
HONDA CBR 1000 RR
SUZUKI GSX-R 1000 K9
KAWASAKI VN 1700 Nomad
DUCATI Monster 696
KTM 990 Super Duke R
- ยัดคาร์บูเรเตอร์ "โต" (ภาคอัพเดท) เที่ยวแล้วไม่สะใจ ยัดใส่ด้วยขนาด 18 มม.
- ล้วงลึกกับระบบ "คอมบาย เบรค"
- 2003 HARLEY-DAVIDSON FLSTF Fat Boy
- Yamaha Maxam 250
ฮอนด้าเร่งถกอนาคต "ฟีม" ซีซันหน้า
อารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ยืนยันกำลังเร่งเรื่องอย่างเต็มที่เพื่อสรุปอนาคตของ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ว่าจะยังคงลงแข่งในสังกัดทีมสต็อป แอนด์ โก (แซค) ต่อไปหรือไม่ หลังผู้จัดปรับกติกาใหม่ในฤดูกาลหน้า
หลังจากที่ฝ่ายจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกประกาศเตรียมยกเลิกการแข่งขันรุ่น 250 ซีซี ที่เจ้าฟีมลงชิงชัยอยู่ในเวลานี้ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้รถเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 600 ซีซี ภายใต้ชื่อรุ่น โมโต 2 ในฤดูกาลหน้าแทน
ส่งผลให้อนาคตของ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ที่กำลังชิงชัยในรุ่นดังกล่าวเป็นฤดูกาลที่ 3 ร่วมกับทีมสต็อป แอนด์ โก (แซค) ต้องสั่นคลอนทันที เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันว่าทีมแข่งสัญชาติสเปนจะดำเนินการร่วมงานกับนักบิดไทยต่อไปหรือไม่
ล่าสุด อารักษ์ พรประภา บอสใหญ่เอพีฮอนด้า เปิดเผยว่า "จากกติกาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในปีหน้า ประกอบกับฤดูกาลนี้เหลือการแข่งขันอีกเพียง 6 เรซ ทำให้เราต้องเร่งหารือถึงอนาคตของฟีมในปีหน้า ซึ่งเวลานี้นอกจากสต็อปแอนด์โก(แซค)ต้นสังกัดเดิมแล้ว ยังมีอีก 2 ทีมที่สนใจดึงเขาไปร่วมทีม"
"ในนามของเอพี ฮอนด้า เรากำลังหารือกับทั้งทีมสปอนเซอร์ ,ทีมโรงงานฮอนด้า (HRC) รวมถึงงบค่าใช้จ่ายที่น่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า อย่างไรก็ดีผมเชื่อว่าน่าจะได้ข้อสรุปในทางที่ดีในเร็ววันนี้"เสี่ยอารักษ์เผยผ่าน ASTVผู้จัดการรายวัน
พร้อมกันนี้บอสใหญ่เอพีฮอนด้า ยังปฏิเสธข่าวที่เตรียมขยับฟีมขึ้นไปบิดในรุ่นโมโตจีพีว่า "จริงอยู่ที่ดอร์นา (ฝ่ายสิทธิประโยชน์) ให้ความสนใจที่จะดึงตัวฟีมขึ้นไปแข่งรุ่นโมโตจีพี (800 ซีซี) แต่ในความคิดของผมแล้ว ฟีมยังน่าจะต้องสั่งสมประสบการณ์จากรุ่นโมโต 2 ไปก่อน"
สำหรับ ฟีม ปัจจุบันรั้งอันดับ 14 ในรุ่น 250 ซีซี เพิ่งจะเดินทางออกจากสเปนไปยังสหรัฐเมริกา เพื่อเตรียมทำศึกเวิลด์จีพี รายการอินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ ที่อินเดียนาโพลิส มอเตอร์สปีดเวย์ โดยจะแข่งขันในคืนวันที่ 30 ส.ค.นี้ ตามเวลาประเทศไทย
ที่มา http://www.manager.co.th/
หลังจากที่ฝ่ายจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกประกาศเตรียมยกเลิกการแข่งขันรุ่น 250 ซีซี ที่เจ้าฟีมลงชิงชัยอยู่ในเวลานี้ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้รถเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 600 ซีซี ภายใต้ชื่อรุ่น โมโต 2 ในฤดูกาลหน้าแทน
ส่งผลให้อนาคตของ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ที่กำลังชิงชัยในรุ่นดังกล่าวเป็นฤดูกาลที่ 3 ร่วมกับทีมสต็อป แอนด์ โก (แซค) ต้องสั่นคลอนทันที เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันว่าทีมแข่งสัญชาติสเปนจะดำเนินการร่วมงานกับนักบิดไทยต่อไปหรือไม่
ล่าสุด อารักษ์ พรประภา บอสใหญ่เอพีฮอนด้า เปิดเผยว่า "จากกติกาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในปีหน้า ประกอบกับฤดูกาลนี้เหลือการแข่งขันอีกเพียง 6 เรซ ทำให้เราต้องเร่งหารือถึงอนาคตของฟีมในปีหน้า ซึ่งเวลานี้นอกจากสต็อปแอนด์โก(แซค)ต้นสังกัดเดิมแล้ว ยังมีอีก 2 ทีมที่สนใจดึงเขาไปร่วมทีม"
"ในนามของเอพี ฮอนด้า เรากำลังหารือกับทั้งทีมสปอนเซอร์ ,ทีมโรงงานฮอนด้า (HRC) รวมถึงงบค่าใช้จ่ายที่น่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า อย่างไรก็ดีผมเชื่อว่าน่าจะได้ข้อสรุปในทางที่ดีในเร็ววันนี้"เสี่ยอารักษ์เผยผ่าน ASTVผู้จัดการรายวัน
พร้อมกันนี้บอสใหญ่เอพีฮอนด้า ยังปฏิเสธข่าวที่เตรียมขยับฟีมขึ้นไปบิดในรุ่นโมโตจีพีว่า "จริงอยู่ที่ดอร์นา (ฝ่ายสิทธิประโยชน์) ให้ความสนใจที่จะดึงตัวฟีมขึ้นไปแข่งรุ่นโมโตจีพี (800 ซีซี) แต่ในความคิดของผมแล้ว ฟีมยังน่าจะต้องสั่งสมประสบการณ์จากรุ่นโมโต 2 ไปก่อน"
สำหรับ ฟีม ปัจจุบันรั้งอันดับ 14 ในรุ่น 250 ซีซี เพิ่งจะเดินทางออกจากสเปนไปยังสหรัฐเมริกา เพื่อเตรียมทำศึกเวิลด์จีพี รายการอินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ ที่อินเดียนาโพลิส มอเตอร์สปีดเวย์ โดยจะแข่งขันในคืนวันที่ 30 ส.ค.นี้ ตามเวลาประเทศไทย
ที่มา http://www.manager.co.th/
คาวาฯปรับทัพ โยกฐานการผลิต ชูไทยผลิต2ล้อ
บริษัท คาวาซากิ ในญี่ปุ่น ประกาศโยกฐานการผลิตรถจักรยานยนต์มายังประเทศไทย เหตุค่าแรงถูกคุ้มทุนกว่า บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างหนังสือพิมพ์โยมิอูริ ฉบับวานนี้ว่า บริษัท คาวาซากิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น จะเริ่มโยกย้ายฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดกลางและรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ จากเดิมที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยภายในปี 2553 นี้ เนื่องจากไทยมีข้อได้เปรียบเรื่องค่าแรงที่ถูกกว่า ทั้งนี้ รายงานเปิดเผยว่า คาวาซากินับเป็นบริษัทญี่ปุ่นแห่งแรก ที่ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ทั้งหมดมายังประเทศตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ดีรายงานไม่ได้กล่าวรายละเอียดที่ชัดเจน ถึงช่วงเวลาและสถานที่ตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่แน่ชัด ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัท
ฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุด อันดับ 2 ในญี่ปุ่น ได้พิจารณาโยกย้ายฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยแล้ว แต่ไม่ได้รวมถึงรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ เนื่องจากติดข้อจำกัดด้านภาษี ในวันเดียวกันหนังสือพิมพ์นิกคัน โคเกียว ได้รายงานว่าบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น มีแผนที่จะผลิตรถยนต์ราคาถูกเพื่อป้อนกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในประเทศจีนและไทยโดยเฉพาะ ซึ่งจะเริ่มภายในปี 2553 นี้ ขณะเดียวกันรายงานยังกล่าวด้วย ว่าโตโยต้าตั้งเป้าจะผลิตรถยนต์ประเภทดังกล่าวในสายการผลิตที่เรียกว่า รถครอบครัวแบบเริ่มต้นที่ 1.5 แสนคัน ต่อปี เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กที่มีราคาถูกในกลุ่มประเทศ ตลาดเกิดใหม่
ที่มา หนังสือพิมพ์ Post Today
ฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุด อันดับ 2 ในญี่ปุ่น ได้พิจารณาโยกย้ายฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยแล้ว แต่ไม่ได้รวมถึงรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ เนื่องจากติดข้อจำกัดด้านภาษี ในวันเดียวกันหนังสือพิมพ์นิกคัน โคเกียว ได้รายงานว่าบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น มีแผนที่จะผลิตรถยนต์ราคาถูกเพื่อป้อนกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในประเทศจีนและไทยโดยเฉพาะ ซึ่งจะเริ่มภายในปี 2553 นี้ ขณะเดียวกันรายงานยังกล่าวด้วย ว่าโตโยต้าตั้งเป้าจะผลิตรถยนต์ประเภทดังกล่าวในสายการผลิตที่เรียกว่า รถครอบครัวแบบเริ่มต้นที่ 1.5 แสนคัน ต่อปี เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กที่มีราคาถูกในกลุ่มประเทศ ตลาดเกิดใหม่
ที่มา หนังสือพิมพ์ Post Today
MODIFIKASI BAJAJ PULSAR
If only the writing motorcycle brand in the gas tank, firing and under saddle back removed, you must have guessed moge (big motorcycles). In fact, if glimpsed from the front like the Italian-made motorcycles that now prevail in the Superbike world championship.
Indeed, these two-wheeled vehicle called the Bajaj Pulsar 180 DTS-I made in 2007 came from India. Heri Syahrimen, the owner who lives in Riau is memperkekar besutannya really good.
The concept is simple, do not alter the body's character dinilainya sports turing.Ia apply only full-dress style firing aka MotoGP models. "This will be added Pulsar box for turing," said the chairman of Riau Bajaj Community (RBC).
Uniquely, Bajaj Pulsar home modification is worked out in Ciledug Raya, Tangerang. Rudi, "the repairman engineer" standard bare block up the middle so as not to wear clothes when Bajaj CBR600 model made of fiberglass.
Quite limited firing only. No! Rudi change the style sepatbor motor Itallia, Cagiva Raptor. Similarly sepatbor laced back design that Dainese has become characteristic of Blessing modif Motor (BM) where the motor Rudi dressing.
In addition to the standard, front shock breaker also be a booster when he was about to set firing. Not replaced because the owner may still want to use the default. But the front sok mpanjang inadequate juxtaposed with handlebar-flops.
Rudi was not losing my mind. The solution, using self-made adapter from the diameter steel pipe with the standard tomorrow. Pipe was then made and close the system self-drat. 5 cm in length was made
Indeed, these two-wheeled vehicle called the Bajaj Pulsar 180 DTS-I made in 2007 came from India. Heri Syahrimen, the owner who lives in Riau is memperkekar besutannya really good.
The concept is simple, do not alter the body's character dinilainya sports turing.Ia apply only full-dress style firing aka MotoGP models. "This will be added Pulsar box for turing," said the chairman of Riau Bajaj Community (RBC).
Uniquely, Bajaj Pulsar home modification is worked out in Ciledug Raya, Tangerang. Rudi, "the repairman engineer" standard bare block up the middle so as not to wear clothes when Bajaj CBR600 model made of fiberglass.
Quite limited firing only. No! Rudi change the style sepatbor motor Itallia, Cagiva Raptor. Similarly sepatbor laced back design that Dainese has become characteristic of Blessing modif Motor (BM) where the motor Rudi dressing.
In addition to the standard, front shock breaker also be a booster when he was about to set firing. Not replaced because the owner may still want to use the default. But the front sok mpanjang inadequate juxtaposed with handlebar-flops.
Rudi was not losing my mind. The solution, using self-made adapter from the diameter steel pipe with the standard tomorrow. Pipe was then made and close the system self-drat. 5 cm in length was made
“ซูซูกิ” เตรียมรุกตลาดแฟชั่น เปิดตัวรถจักรยานยนต์ใหม่ ... ดีไซน์เก๋ พร้อมพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ “นิชคุณ” 2PM
“ซูซูกิ” ค่ายรถจักรยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทย ประกาศรุกตลาดรถจักรยานยนต์ออโตเมติกสไตล์แฟชั่นอย่างเป็นทางการ ด้วยการเตรียมตัวเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ เปี่ยมด้วยศักยภาพที่เหนือกว่ากับเทคโนโลยีหัวฉีดอัจฉริยะ DCP-FI พร้อมด้วยดีไซน์แปลกใหม่ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากไอศกรีม เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นยุคใหม่โดยเฉพาะ
เนื่องจากปัจจุบันตลาดรถจักรยานยนต์ออโตเมติกมีการเติบโตเป็นอย่างสูง ดังนั้น “ซูซูกิ” ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ออโตเมติกที่นอกจากจะใส่ใจในเรื่องการประหยัดน้ำมันแล้ว ยังเน้นในเรื่องเครื่องยนต์ที่มีกำลังแรงกว่าถึง 125 ซีซี ถือเป็นรถจักรยานยนต์ออโตเมติกที่มีสมรรถนะของเครื่องยนต์ด้วยซีซีสูงที่สุด นอกจากนั้นรถจักรยานยนต์ตัวใหม่ของ “ซูซูกิ” ยังเป็นเครื่องยนต์หัวฉีดอัจฉริยะ DCP-FI เอกลักษณ์ของ “ซูซูกิ” ที่เน้นระบบเผาผลาญที่หมดจด ช่วยประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตร่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
สำหรับรถจักรยานยนต์ตัวใหม่ของ “ซูซูกิ” ที่กำลังจะเปิดตัวนั้น เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น รักความสนุกสนาน และสีสันที่สดใส พร้อมด้วยเครื่องยนต์หัวฉีด DCP-FI แรงถึง 125 ซีซี ซึ่งมีความโดดเด่น ฉีกจากการดีไซน์แบบเดิมๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้มีทางเลือกที่แตกต่าง และแสดงถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น
โดยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ “ซูซูกิ” รุ่นใหม่ พร้อมกับการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์หนุ่มหล่ออย่าง “นิชคุณ 2PM” ที่นำขบวนความน่ารัก และความสนุกสนานมารอพบกับคุณ และเปิดโอกาสให้ได้กรี๊ดกันอย่างใกล้ชิดแค่ซื้อสินค้า Collectionโดนๆ ของ “นิชคุณ” เพียง 100 ท่านเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิ์ลุ้น Meet&Greet กับ “นิชคุณ” นอกจากนั้นยังมีมินิคอนเสิร์ตจาก 4 หนุ่ม Tattoo Colour และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ในวันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2552 ณ ลานพาร์คพารากอน ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. เป็นต้นไป
ที่มา http://www.siamsport.co.th/
เนื่องจากปัจจุบันตลาดรถจักรยานยนต์ออโตเมติกมีการเติบโตเป็นอย่างสูง ดังนั้น “ซูซูกิ” ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ออโตเมติกที่นอกจากจะใส่ใจในเรื่องการประหยัดน้ำมันแล้ว ยังเน้นในเรื่องเครื่องยนต์ที่มีกำลังแรงกว่าถึง 125 ซีซี ถือเป็นรถจักรยานยนต์ออโตเมติกที่มีสมรรถนะของเครื่องยนต์ด้วยซีซีสูงที่สุด นอกจากนั้นรถจักรยานยนต์ตัวใหม่ของ “ซูซูกิ” ยังเป็นเครื่องยนต์หัวฉีดอัจฉริยะ DCP-FI เอกลักษณ์ของ “ซูซูกิ” ที่เน้นระบบเผาผลาญที่หมดจด ช่วยประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตร่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
สำหรับรถจักรยานยนต์ตัวใหม่ของ “ซูซูกิ” ที่กำลังจะเปิดตัวนั้น เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น รักความสนุกสนาน และสีสันที่สดใส พร้อมด้วยเครื่องยนต์หัวฉีด DCP-FI แรงถึง 125 ซีซี ซึ่งมีความโดดเด่น ฉีกจากการดีไซน์แบบเดิมๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้มีทางเลือกที่แตกต่าง และแสดงถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น
โดยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ “ซูซูกิ” รุ่นใหม่ พร้อมกับการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์หนุ่มหล่ออย่าง “นิชคุณ 2PM” ที่นำขบวนความน่ารัก และความสนุกสนานมารอพบกับคุณ และเปิดโอกาสให้ได้กรี๊ดกันอย่างใกล้ชิดแค่ซื้อสินค้า Collectionโดนๆ ของ “นิชคุณ” เพียง 100 ท่านเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิ์ลุ้น Meet&Greet กับ “นิชคุณ” นอกจากนั้นยังมีมินิคอนเสิร์ตจาก 4 หนุ่ม Tattoo Colour และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ในวันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2552 ณ ลานพาร์คพารากอน ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. เป็นต้นไป
ที่มา http://www.siamsport.co.th/
"ฟีม" มั่นใจขยับอันดับโลกที่อินเดียนาโพลิส
รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์ จีพี หวังขยับอันดับโลกในตารางคะแนนสะสมรุ่น 250 ซีซี สุดสัปดาห์นี้ในการแข่งขันที่อินเดียนาโพลิส สหรัฐอเมริกา หลังหยุดนิ่งอยู่อันดับ 14 มาหลายสนามจากผลงานที่ไม่สู้ดี
นักบิดสังกัดไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค กลับมาเก็บคะแนนได้อีกครั้งในการแข่งขันสนามล่าสุดที่สาธารณรัฐเช็ก หลังก่อนหน้านี้ประสบปัญหาไม่จบการแข่งขันที่เยอรมนีและอังกฤษ ซึ่งเจ้าตัวมั่นใจว่าการแข่งขันสนามต่อไปในสุดสัปดาห์นี้เป็นโอกาสดีที่จะขยับอันดับโลกอีกครั้ง
โดยเจ้าฟีมเผยก่อนออกเดินทางจากประเทศสเปนไปยัง อินเดียนาโพลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อทำศึกสนามต่อไปว่า "การเก็บแต้มได้ที่เบอร์โน(เช็ก)ทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายของผมในสนามนี้คือการเก็บแต้มให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะขยับอันดับโลกให้ได้"
พร้อมกันนี้นักบิดวัย 21 ปี ยังพูดถึงการแข่งขันในปีที่แล้วที่พลาดลงแข่งเนื่องจากถูกยกเลิกด้วยพิษพายุไต้ฝุ่นว่า "ปีที่แล้วผมควอลิฟายได้ดี แต่น่าเสียดายที่การแข่งขันถูกยกเลิก ผมยังจำได้ว่าฝนตกลงมาหนักมากจนแทร็กแทบจะกลายเป็นแม่น้ำไปเลย ผมหวังว่าปีนี้จะไม่มีอะไรมาขัดขวางเราอีก"
ฟีมมีแต้มสะสมในรุ่น 250 ซีซีอยู่ที่ 43 คะแนน ตามหลังลูคัส พีเช็ก,จูเลียส คลูเซล และไมค์ ดิ เมกลิโอ ที่อยู่อันดับเหนือกว่าเพียง 1,5 และ7 คะแนนเท่านั้น โดยศึกอินเดียนาโพลิส จีพี จะมีขึ้นที่อินเดียนาโพลิส มอเตอร์สปีดเวย์ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 30 ส.ค. นี้
ที่มา http://www.manager.co.th/
นักบิดสังกัดไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค กลับมาเก็บคะแนนได้อีกครั้งในการแข่งขันสนามล่าสุดที่สาธารณรัฐเช็ก หลังก่อนหน้านี้ประสบปัญหาไม่จบการแข่งขันที่เยอรมนีและอังกฤษ ซึ่งเจ้าตัวมั่นใจว่าการแข่งขันสนามต่อไปในสุดสัปดาห์นี้เป็นโอกาสดีที่จะขยับอันดับโลกอีกครั้ง
โดยเจ้าฟีมเผยก่อนออกเดินทางจากประเทศสเปนไปยัง อินเดียนาโพลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อทำศึกสนามต่อไปว่า "การเก็บแต้มได้ที่เบอร์โน(เช็ก)ทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายของผมในสนามนี้คือการเก็บแต้มให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะขยับอันดับโลกให้ได้"
พร้อมกันนี้นักบิดวัย 21 ปี ยังพูดถึงการแข่งขันในปีที่แล้วที่พลาดลงแข่งเนื่องจากถูกยกเลิกด้วยพิษพายุไต้ฝุ่นว่า "ปีที่แล้วผมควอลิฟายได้ดี แต่น่าเสียดายที่การแข่งขันถูกยกเลิก ผมยังจำได้ว่าฝนตกลงมาหนักมากจนแทร็กแทบจะกลายเป็นแม่น้ำไปเลย ผมหวังว่าปีนี้จะไม่มีอะไรมาขัดขวางเราอีก"
ฟีมมีแต้มสะสมในรุ่น 250 ซีซีอยู่ที่ 43 คะแนน ตามหลังลูคัส พีเช็ก,จูเลียส คลูเซล และไมค์ ดิ เมกลิโอ ที่อยู่อันดับเหนือกว่าเพียง 1,5 และ7 คะแนนเท่านั้น โดยศึกอินเดียนาโพลิส จีพี จะมีขึ้นที่อินเดียนาโพลิส มอเตอร์สปีดเวย์ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 30 ส.ค. นี้
ที่มา http://www.manager.co.th/
"ลอเรนโซ" ต่อสัญญาบิดให้ทีมยามาฮ่า 1 ปี
ฆอร์เก ลอเรนโซ ยอดนักบิดชาวสเปนตัดสินใจปักหลักอยู่กับทีมเฟียต-ยามาฮ่า ต่อไป หลังจากเซ็นสัญญาฉบับใหม่เป็นเวลา 1 ปี
สิงห์สองล้อรุ่นโมโตจีพีวัย 22 ปี เพิ่งจะตกเป็นข่าวว่า ดูตาติ ทีมคู่ปรับพร้อมทุ่มค่าจ้างก้อนโตดึงตัวไปร่วมงานในฤดูกาลหน้า หลังสัญญากับยามาฮ่ากำลังจะหมดหลังจบฤดูกาลนี้ โดยปัจจุบันรับค่าเหนื่อยเพียง 2 ล้านยูโรต่อปี (ราว 96 ล้านบาท) น้อยกว่า วาเลนติโน รอสซี เพื่อนร่วมทีมถึง 7 เท่า ขณะที่ ดูคาติ พร้อมจ่าย 8 ล้านยูโร (ราว 384 ล้านบาท) เป็นการล่อใจ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ลอเรนโซ ตกลงอยู่กับทีมต่อไป 1 ปี โดยมี ลิน ยาร์วิส กรรมการผู้จัดการของทีมยามาฮ่า เรซซิง ออกแถลงว่า “เราหวังว่า ลอเรนโซ จะอยู่กับ ยามาฮ่า ไปอีกหลายปีนับจากนี้ ซึ่งเราไม่สงสัยเลยว่าเขาจะก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์โลกรุ่นโมโตจีพีในอนาคต”
“เราภูมิใจที่เขาตัดสินใจอยู่กับ ยามาฮ่า แม้ว่าจะได้รับข้อเสนอที่ล่อใจจากบรรดาทีมคู่แข่งของเราเข้ามามากมายก็ตาม” ยาร์วิส กล่าวด้วยความโล่งใจ ทว่า แหล่งข่าวไม่ระบุตัวเลขค่าจ้างที่ ลอเรนโซ จะได้รับในสัญญาฉบับใหม่แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ลอเรนโซ มีคะแนนสะสมในรุ่นโมโตจีพีเป็นอันดับ 2 ตามหลัง วาเลนติโน รอสซี เพื่อนร่วมทีมชาวอิตาเลียนอยู่ 50 คะแนน โดยศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามต่อไป จะไปแข่งขันกันที่อินเดียนาโพลิส มอเตอร์สปีดเวย์ ประเทศสหรัฐเอเมริกา ในช่วงดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม ตามเวลาประเทศไทย
ที่มา www.manager.co.th>
สิงห์สองล้อรุ่นโมโตจีพีวัย 22 ปี เพิ่งจะตกเป็นข่าวว่า ดูตาติ ทีมคู่ปรับพร้อมทุ่มค่าจ้างก้อนโตดึงตัวไปร่วมงานในฤดูกาลหน้า หลังสัญญากับยามาฮ่ากำลังจะหมดหลังจบฤดูกาลนี้ โดยปัจจุบันรับค่าเหนื่อยเพียง 2 ล้านยูโรต่อปี (ราว 96 ล้านบาท) น้อยกว่า วาเลนติโน รอสซี เพื่อนร่วมทีมถึง 7 เท่า ขณะที่ ดูคาติ พร้อมจ่าย 8 ล้านยูโร (ราว 384 ล้านบาท) เป็นการล่อใจ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ลอเรนโซ ตกลงอยู่กับทีมต่อไป 1 ปี โดยมี ลิน ยาร์วิส กรรมการผู้จัดการของทีมยามาฮ่า เรซซิง ออกแถลงว่า “เราหวังว่า ลอเรนโซ จะอยู่กับ ยามาฮ่า ไปอีกหลายปีนับจากนี้ ซึ่งเราไม่สงสัยเลยว่าเขาจะก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์โลกรุ่นโมโตจีพีในอนาคต”
“เราภูมิใจที่เขาตัดสินใจอยู่กับ ยามาฮ่า แม้ว่าจะได้รับข้อเสนอที่ล่อใจจากบรรดาทีมคู่แข่งของเราเข้ามามากมายก็ตาม” ยาร์วิส กล่าวด้วยความโล่งใจ ทว่า แหล่งข่าวไม่ระบุตัวเลขค่าจ้างที่ ลอเรนโซ จะได้รับในสัญญาฉบับใหม่แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ลอเรนโซ มีคะแนนสะสมในรุ่นโมโตจีพีเป็นอันดับ 2 ตามหลัง วาเลนติโน รอสซี เพื่อนร่วมทีมชาวอิตาเลียนอยู่ 50 คะแนน โดยศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามต่อไป จะไปแข่งขันกันที่อินเดียนาโพลิส มอเตอร์สปีดเวย์ ประเทศสหรัฐเอเมริกา ในช่วงดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม ตามเวลาประเทศไทย
ที่มา www.manager.co.th>
"เดอะด็อกเตอร์" แบะท่าซิ่งเอฟวันปี 2011
วาเลนติโน รอสซี ยอดนักบิดแชมป์โลก 8 สมัย พร้อมทำตามฝันของตนเองด้วยการร่วมทีมเฟอร์รารี ลงแข่งรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกฤดูกาล 2011 หลังสัญญาฉบับปัจจุบันกับทีมเฟียต-ยามาฮ่า ในศึกโมโตจีพีจะหมดลงในปี 2010
"เดอะด็อกเตอร์" ตกเป็นข่าวเตรียมเปลี่ยนชนิดกีฬาจากมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก มาเป็น ฟอร์มูลา วัน หลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากเคยร่วมทดสอบรถกับทีม "ม้าลำพอง" ที่สนามมาลาเนลโน มาแล้วถึง 3 ครั้ง นับจากปี 2006 เป็นต้นมา
ซึ่งแม้ว่ายอดนักบิดอิตาเลียนจะเคยออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้รับการทาบทามจากเฟอร์รารี ให้เข้ามาทำหน้าที่แทนเฟลิเป มาสซาในฤดูกาลนี้ ทว่าล่าสุดเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อในบ้านเกิดว่า มีความเป็นไปได้ที่จะขยับไปขับเอฟวันหลังปี 2010
"เวลานี้ผมยังมีสมาธิอยู่กับการแข่งขันโมโตจีพี เช่นเดียวกับในปีหน้าที่ผมยังเหลือสัญญากับยามาฮ่าอีก 1 ฤดูกาล แต่หลังจากนั้นในปี 2011 อะไรจะเกิดขึ้นเราจะได้เห็นกัน ผมมีทางเลือกมากมายซึ่งยังไม่จำเป็นต้องตัดสินใจในเวลานี้"
"การได้เป็นนักขับให้เฟอร์รารีลงแข่งเอฟวันคือความฝันของทุกคน ในปี 2006 พวกเขาเคยเสนอให้ผมเป็นนักขับทดสอบ แต่เวลานั้นผมยังไม่อยากทิ้งอาชีพที่ผมรัก ทว่าหากเป็นในปี 2011 ผมคิดว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อถึงเวลานั้น" นักบิดวัย 30 ปี ร่ายยาว
รอสซี กำลังไล่ล่าตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่ 9 ของตัวเองในการแข่งขันจักรยานต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รุ่นโมโต จีพี ฤดูกาล 2009 โดยเจ้าตัวมีคิวทำศึกสนามต่อไปในรายการอินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ ที่สหรัฐอเมริกา วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคมนี้
ที่มา http://www.manager.co.th/
"เดอะด็อกเตอร์" ตกเป็นข่าวเตรียมเปลี่ยนชนิดกีฬาจากมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก มาเป็น ฟอร์มูลา วัน หลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากเคยร่วมทดสอบรถกับทีม "ม้าลำพอง" ที่สนามมาลาเนลโน มาแล้วถึง 3 ครั้ง นับจากปี 2006 เป็นต้นมา
ซึ่งแม้ว่ายอดนักบิดอิตาเลียนจะเคยออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้รับการทาบทามจากเฟอร์รารี ให้เข้ามาทำหน้าที่แทนเฟลิเป มาสซาในฤดูกาลนี้ ทว่าล่าสุดเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อในบ้านเกิดว่า มีความเป็นไปได้ที่จะขยับไปขับเอฟวันหลังปี 2010
"เวลานี้ผมยังมีสมาธิอยู่กับการแข่งขันโมโตจีพี เช่นเดียวกับในปีหน้าที่ผมยังเหลือสัญญากับยามาฮ่าอีก 1 ฤดูกาล แต่หลังจากนั้นในปี 2011 อะไรจะเกิดขึ้นเราจะได้เห็นกัน ผมมีทางเลือกมากมายซึ่งยังไม่จำเป็นต้องตัดสินใจในเวลานี้"
"การได้เป็นนักขับให้เฟอร์รารีลงแข่งเอฟวันคือความฝันของทุกคน ในปี 2006 พวกเขาเคยเสนอให้ผมเป็นนักขับทดสอบ แต่เวลานั้นผมยังไม่อยากทิ้งอาชีพที่ผมรัก ทว่าหากเป็นในปี 2011 ผมคิดว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อถึงเวลานั้น" นักบิดวัย 30 ปี ร่ายยาว
รอสซี กำลังไล่ล่าตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่ 9 ของตัวเองในการแข่งขันจักรยานต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รุ่นโมโต จีพี ฤดูกาล 2009 โดยเจ้าตัวมีคิวทำศึกสนามต่อไปในรายการอินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ ที่สหรัฐอเมริกา วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคมนี้
ที่มา http://www.manager.co.th/
บิ๊กไบค์-เสกเวย์โอกาสใหม่ของคนที่มองเห็น
เมื่อมองย้อนไปประมาณ 1-2 ปีที่ใครๆ ต่างก็จับตามองกระแสเศรษฐกิจที่มีการคาดการณ์ว่าจะต้องได้รับผลกระทบจากสภาวการณ์เศ่รษฐกิจตกต่ำของสหรัฐอเมริการอย่างแน่นอน เพียงแต่ใครจะได้รับมากหรือน้อยเท่านัน ดังนั้น จึงส่งผลให้เกิดการเตรียมตัวไปในทิศทางของการชะลอการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ท่ามกลางความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้ประกอบการที่มองเห็นโอกาสและใช้จังหวะเวลานี้ในการก่อร่างสร้างธุรกิจใหม่ขึ้นมา โดยเน้นไปที่การมองและตัดสินใจจากศักยภาพของตนเองเป็นหลัก แต่มีการวางกรอบแนวคิดในการทำธุรกิจแบบที่เรียกได้ว่าเสี่ยงอย่างมีการประเมินไว้แล้ว เพระไม่มีธุรกิจไหนที่ไม่มีความเสี่ยง "ผู้จัดการ 360 รายสัปดาห์" ติดตาม 2 ผู้ประกอบการที่มองเห็นโอกาสในธุรกิจ "บิ๊กไบค์" กับ "เสกเวย์" มานำเสนอ
บิ๊กไบค์ต้องเริ่มก่อนจะสายไป
ในช่วงจังหวะของเศรษฐกิจขาลง แต่"Gen4" สามารถแจ้งเกิดในธุรกิจ "Big bike" ทั้งๆ ที่รถมอเตอร์ไซค์คันละเกือบแสนขึ้นไปจนถึงราคาหลักล้านบาทนี้เรียกได้ว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ยิ่งในยุคเศรษฐกิจตกต่ำอย่างนี้ด้วยแล้ว นอกจากนี้ รถบิ๊กไบค์ยังเป็นธุรกิจที่มีอยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่สินค้าแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีในตลาด แต่จุดสำคัญ ที่ทำให้ Gen 4 แทรกตัวขึ้นมาในธุรกิจนี้ได้ เป็นเพราะเห็นช่องว่างและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแตกต่าง จึงมีโอกสาใหม่ๆ เกิดขึ้น
จุดเริ่มต้นของ Gen 4 ไม่ได้แตกต่างจากหลายๆ ธุรกิจที่เกิดมาจากความสนใจหรือความฝันของผู้ประกอบการคนหนึ่ง ที่มีความประทับใจในอะไรสักอย่างหรือแปรเปลี่ยนงานอดิเรก ของเล่นสนุกๆ ในยามว่าง ที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เป็นไลฟ์สไตล์ส่วนตัวมาก่อร่างสร้างเป็นธุรกิจขึ้นมา แต่ความแตกต่างอยู่ที่การเตรียมความพร้อมและความสามารถในการบริหารจัดการ
หลังจากตัดสินใจแล้วว่าจะลงมือริเริ่มธุรกิจใหม่เพราะธุรกิจที่ปรึกษาทางการประชาสัมพันธ์ที่ทำมาถึง 13 ปี อยู่ในจุดที่อยู่ตัวแล้ว และยังคิดว่าวัยที่ร่วงเลยไปเรื่อยๆ อาจจะกลายเป็นอุปสรรค "ชาญยุทธ ชาญวิถี" จึงชักชวน วีระพงศ์ เหล่าวานิช ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ชื่นชอบการขับขี่รถบิ๊กไบค์เหมือนกัน พร้อมทั้ง ยังได้วรวุธ พานิชกุล นักแข่งมืออาชีพ หรือ Biker กับธวัชชัย ตรีพิชิต ซึ่งมีความถนัดในเรื่องงานช่างมาเป็นทั้งทีมงานและหุ้นส่วน ทั้ง 4 คน ร่วมกันก่อตั้ง บริษัท เจนโฟร์ มอเตอร์ไบค์ จำกัด ขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อน
"การที่เราคนเดียวจะมาเรียนรู้ใหม่หมดกับธุรกิจที่มีมาอยู่ก่อนนานแล้วจะเสียเปรียบคนที่อยู่มาก่อน เพราะฉะนั้นการหามือโปรมาช่วยเสริมกันเพราะถนัดคนละด้าน ทำให้เราสามารถก้าวทันคนอื่นได้ในเวลาที่ค่อนข้างเร็ว เพราะตอนนี้เราเป็นที่รู้จักในวงการนี้แล้ว"
แม้ว่ารูปแบบธุรกิจจะไม่แตกต่างแต่แนวคิดในการทำธุรกิจของ Gen 4 ต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ เริ่มแรกคือแนวคิดในการมองโอกาสธุรกิจด้วยการมุ่งเน้นไปที่การหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งเป็นการสร้างฐานลูกค้าที่ต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่มักจะมองแต่กลุ่มลูกค้ากลุ่มเดิม โดยใช้วิธีการกระตุ้นตลาดที่แตกต่าง เริ่มจากการทำประชาสัมพันธ์เฉพาะกลุ่ม ด้วยการนัดสมาชิกที่อยู่ในกลุ่มไปขับรถเที่ยว การออกบูทในศูนย์การค้า รวมทั้งการไปโชว์ตัวในงานอีเวนต์ ซึ่งเป็นโอกาสให้พบลูกค้าใหม่ที่มักจะสนใจเข้ามาทักทาย ทำให้ได้โอกาสแจกนามบัตร
ที่สำคัญคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีโดยเน้นไปที่การเปิดรับทุกคนที่ให้ความสนใจอย่างเป็นมิตรโดยไม่ได้หวังว่าจะเกิดการซื้อขายตามมาหรือไม่ พร้อมกับการสร้างจุดเด่นในเรื่องการบริการ ไม่ว่าจะเป็นการพาไปขับอย่างถูกวิธีและปลอดภัย โดยมีสนามฝึกที่เป็นมาตรฐานและนักแข่งรถที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญมาช่วยฝึก รวมทั้งฝีมือของช่างที่สามารถแต่งรถหรือดูแลรถให้ทำออกมาแล้วใช้งานได้จริง ยังเป็นจุดแข็ง นอกจากนี้ ยังมีบริการจัดไฟแนนซ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าจ่ายได้ดีขึ้นและมีการดูแลรับซื้อขายแลกเปลี่ยน
"ในขณะที่รายอื่นๆ ส่วนมากจะกลุ่มเป้าหมายระดับ B ขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็น Triumph, BMW, Ducati และ Harley Davidson ซึ่งเป็นรถที่มีดีไซเนอร์แต่งอย่างสมบูรณ์แบบมาแล้ว เพราะฉะนั้น เราจึงเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับ B ลงมาเป็นหลัก เพราะเป็นกลุ่มที่ยังมีช่องว่าง ไม่มีใครจับตลาดที่ชัดเจน และเห็นว่ามีลูกค้าที่ชอบสนุกกับการแต่งรถเอง เช่น ทำเฟรมใหม่ ทำสีใหม่ หรือรถสปอร์ตจากญี่ปุ่นอย่างซูซูกิ ถ้าจะเบรกที่ความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต้องมีการปรับแต่งอุปกรณ์ใหม่ เพราะเบรกปรกติไม่พอ ซึ่งเรามีช่างที่มีความสามารถในการดูแลและให้คำปรึกษาแนะนำลูกค้าได้จริงๆ
มองอนาคตสดใส ปูทางสร้างความยั่งยืน
เนื่องจาก ธุรกิจนี้ยังมีภาพที่เรียกว่า "Gray market" เพราะมีการซื้อรถที่มีแต่ใบ Invoice ซึ่งเป็นอะไหล่นำเข้ามาประกอบและขับขี่โดยไม่จดทะเบียนและเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฏหมาย แต่แนวทางการทำธุรกิจของ Gen 4 มองความถูกต้องในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมและต้องการสร้างความยั่งยืนในธุรกิจ ถึงแม้ว่าจะทำให้เสียโอกาสในการขายเพราะลูกค้าต้องจ่ายมากขึ้น ด้วยการขายรถทุกคันแบบมีการจดทะเบียนและจ่ายภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทำให้การซื้อรถแต่ละคันของลูกค้าต้องมีค่าใช้จ่ายสุงขึ้นคันละประมาณ 5-8 หมื่นบาท
"ลูกค้าบางคนอยากจะประหยัดเงินและคิดว่าไม่เป็นไรถ้าตำรวจจับคงจะต่อรองได้ ในขณะที่ บางร้านก็คิดแค่อยากจะขายเท่านั้น แต่สำหรับเราอยากทำให้ถูกต้องมากกว่า เพราะเราไม่ได้ทำธุรกิจแบคิดแต่จะขายหรือต้องมีกำไรมากๆ แต่คิดว่าถ้าเราสามารถทำให้ธุรกิจยั่งยืนได้ ผลกำไรก็จะตามมาเอง นอกจากนี้ในอีกไม่เกิน 5 ปี ข้างหน้าค่าทะเบียนรถใหญ่นำเข้าจะเป็น 0% ทำให้โอกาสในการขายของเราสูงขึ้นอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม ชาญยุทธ มองอนาคตของธุรกิจนี้ว่า น่าจะเติบโตไปได้อีกนาน เพราะปัจจุบันค่ายรถญี่ปุ่นรายใหญ่เข้ามาเปิดศูนย์บริการรถบิ๊กไบค์ ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า ยามาฮ่า คาวาซากิ และซูซูกิ ซึ่งจะเป็นการเข้ามาช่วยขยายตลาด เพราะจะมีการกระตุ้นความนิยมให้เพิ่มมากขึ้น และจะเป็นประโยชน์โดยรวมเพราะไม่ใช้ลูกค้าทุกคนจะเข้าไปใช้บริการกับศูนย์ฯ ดังนั้น Gen 4 จึงเป็นทางเลือก
นอกจากนี้ ยังมองว่าเพราะผู้ชายทุกคนชอบความเร็วและใฝ่ฝันอยากจะมีรถบิ๊กไบค์เอาไว้ขับเล่น เพราะเสน่ห์อยู่ที่ความเท่ห์ของรถและเครื่องแต่งกาย รวมทั้งความสนุกกับการได้ขับขี่และได้มารวมกลุ่มพบปะคนที่ชอบเหมือนกัน
ในด้านการบริหารจัดการ ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเล็กๆ มีทีมงานประมาณ 10 คนเท่านั้น แต่หากไม่มีแนวทางและวิธีบริหารจัดการที่ดีจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้ไม่น้อย โดยเฉพาะบางส่วนในทีม ซึ่งมีความเป็นศิลปินชอบความอิสระ ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องระเบียบกฏเกณฑ์หรือความคิดแบบธุรกิจทำให้ต้องปรับตัว ทั้งการใช้คำพูด การแสดงออกและค่อยๆ ใส่ความคิดเข้าไปให้เกิดความเข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตาม แนวทางในการทำธุรกิจที่หุ้นส่วนทุกคนคิดตรงกันคือต้องซื่อตรงต่อลูกค้า ไม่ตีหัวเข้าบ้าน เพราะเชื่อว่าจะเป็นรากฐานให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน นอกเหนือจากการใช้ความสมารถที่มีอยู่อย่างเต็มที่
ที่มา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์
แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้ประกอบการที่มองเห็นโอกาสและใช้จังหวะเวลานี้ในการก่อร่างสร้างธุรกิจใหม่ขึ้นมา โดยเน้นไปที่การมองและตัดสินใจจากศักยภาพของตนเองเป็นหลัก แต่มีการวางกรอบแนวคิดในการทำธุรกิจแบบที่เรียกได้ว่าเสี่ยงอย่างมีการประเมินไว้แล้ว เพระไม่มีธุรกิจไหนที่ไม่มีความเสี่ยง "ผู้จัดการ 360 รายสัปดาห์" ติดตาม 2 ผู้ประกอบการที่มองเห็นโอกาสในธุรกิจ "บิ๊กไบค์" กับ "เสกเวย์" มานำเสนอ
บิ๊กไบค์ต้องเริ่มก่อนจะสายไป
ในช่วงจังหวะของเศรษฐกิจขาลง แต่"Gen4" สามารถแจ้งเกิดในธุรกิจ "Big bike" ทั้งๆ ที่รถมอเตอร์ไซค์คันละเกือบแสนขึ้นไปจนถึงราคาหลักล้านบาทนี้เรียกได้ว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ยิ่งในยุคเศรษฐกิจตกต่ำอย่างนี้ด้วยแล้ว นอกจากนี้ รถบิ๊กไบค์ยังเป็นธุรกิจที่มีอยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่สินค้าแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีในตลาด แต่จุดสำคัญ ที่ทำให้ Gen 4 แทรกตัวขึ้นมาในธุรกิจนี้ได้ เป็นเพราะเห็นช่องว่างและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแตกต่าง จึงมีโอกสาใหม่ๆ เกิดขึ้น
จุดเริ่มต้นของ Gen 4 ไม่ได้แตกต่างจากหลายๆ ธุรกิจที่เกิดมาจากความสนใจหรือความฝันของผู้ประกอบการคนหนึ่ง ที่มีความประทับใจในอะไรสักอย่างหรือแปรเปลี่ยนงานอดิเรก ของเล่นสนุกๆ ในยามว่าง ที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เป็นไลฟ์สไตล์ส่วนตัวมาก่อร่างสร้างเป็นธุรกิจขึ้นมา แต่ความแตกต่างอยู่ที่การเตรียมความพร้อมและความสามารถในการบริหารจัดการ
หลังจากตัดสินใจแล้วว่าจะลงมือริเริ่มธุรกิจใหม่เพราะธุรกิจที่ปรึกษาทางการประชาสัมพันธ์ที่ทำมาถึง 13 ปี อยู่ในจุดที่อยู่ตัวแล้ว และยังคิดว่าวัยที่ร่วงเลยไปเรื่อยๆ อาจจะกลายเป็นอุปสรรค "ชาญยุทธ ชาญวิถี" จึงชักชวน วีระพงศ์ เหล่าวานิช ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ชื่นชอบการขับขี่รถบิ๊กไบค์เหมือนกัน พร้อมทั้ง ยังได้วรวุธ พานิชกุล นักแข่งมืออาชีพ หรือ Biker กับธวัชชัย ตรีพิชิต ซึ่งมีความถนัดในเรื่องงานช่างมาเป็นทั้งทีมงานและหุ้นส่วน ทั้ง 4 คน ร่วมกันก่อตั้ง บริษัท เจนโฟร์ มอเตอร์ไบค์ จำกัด ขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อน
"การที่เราคนเดียวจะมาเรียนรู้ใหม่หมดกับธุรกิจที่มีมาอยู่ก่อนนานแล้วจะเสียเปรียบคนที่อยู่มาก่อน เพราะฉะนั้นการหามือโปรมาช่วยเสริมกันเพราะถนัดคนละด้าน ทำให้เราสามารถก้าวทันคนอื่นได้ในเวลาที่ค่อนข้างเร็ว เพราะตอนนี้เราเป็นที่รู้จักในวงการนี้แล้ว"
แม้ว่ารูปแบบธุรกิจจะไม่แตกต่างแต่แนวคิดในการทำธุรกิจของ Gen 4 ต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ เริ่มแรกคือแนวคิดในการมองโอกาสธุรกิจด้วยการมุ่งเน้นไปที่การหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งเป็นการสร้างฐานลูกค้าที่ต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่มักจะมองแต่กลุ่มลูกค้ากลุ่มเดิม โดยใช้วิธีการกระตุ้นตลาดที่แตกต่าง เริ่มจากการทำประชาสัมพันธ์เฉพาะกลุ่ม ด้วยการนัดสมาชิกที่อยู่ในกลุ่มไปขับรถเที่ยว การออกบูทในศูนย์การค้า รวมทั้งการไปโชว์ตัวในงานอีเวนต์ ซึ่งเป็นโอกาสให้พบลูกค้าใหม่ที่มักจะสนใจเข้ามาทักทาย ทำให้ได้โอกาสแจกนามบัตร
ที่สำคัญคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีโดยเน้นไปที่การเปิดรับทุกคนที่ให้ความสนใจอย่างเป็นมิตรโดยไม่ได้หวังว่าจะเกิดการซื้อขายตามมาหรือไม่ พร้อมกับการสร้างจุดเด่นในเรื่องการบริการ ไม่ว่าจะเป็นการพาไปขับอย่างถูกวิธีและปลอดภัย โดยมีสนามฝึกที่เป็นมาตรฐานและนักแข่งรถที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญมาช่วยฝึก รวมทั้งฝีมือของช่างที่สามารถแต่งรถหรือดูแลรถให้ทำออกมาแล้วใช้งานได้จริง ยังเป็นจุดแข็ง นอกจากนี้ ยังมีบริการจัดไฟแนนซ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าจ่ายได้ดีขึ้นและมีการดูแลรับซื้อขายแลกเปลี่ยน
"ในขณะที่รายอื่นๆ ส่วนมากจะกลุ่มเป้าหมายระดับ B ขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็น Triumph, BMW, Ducati และ Harley Davidson ซึ่งเป็นรถที่มีดีไซเนอร์แต่งอย่างสมบูรณ์แบบมาแล้ว เพราะฉะนั้น เราจึงเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับ B ลงมาเป็นหลัก เพราะเป็นกลุ่มที่ยังมีช่องว่าง ไม่มีใครจับตลาดที่ชัดเจน และเห็นว่ามีลูกค้าที่ชอบสนุกกับการแต่งรถเอง เช่น ทำเฟรมใหม่ ทำสีใหม่ หรือรถสปอร์ตจากญี่ปุ่นอย่างซูซูกิ ถ้าจะเบรกที่ความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต้องมีการปรับแต่งอุปกรณ์ใหม่ เพราะเบรกปรกติไม่พอ ซึ่งเรามีช่างที่มีความสามารถในการดูแลและให้คำปรึกษาแนะนำลูกค้าได้จริงๆ
มองอนาคตสดใส ปูทางสร้างความยั่งยืน
เนื่องจาก ธุรกิจนี้ยังมีภาพที่เรียกว่า "Gray market" เพราะมีการซื้อรถที่มีแต่ใบ Invoice ซึ่งเป็นอะไหล่นำเข้ามาประกอบและขับขี่โดยไม่จดทะเบียนและเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฏหมาย แต่แนวทางการทำธุรกิจของ Gen 4 มองความถูกต้องในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมและต้องการสร้างความยั่งยืนในธุรกิจ ถึงแม้ว่าจะทำให้เสียโอกาสในการขายเพราะลูกค้าต้องจ่ายมากขึ้น ด้วยการขายรถทุกคันแบบมีการจดทะเบียนและจ่ายภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทำให้การซื้อรถแต่ละคันของลูกค้าต้องมีค่าใช้จ่ายสุงขึ้นคันละประมาณ 5-8 หมื่นบาท
"ลูกค้าบางคนอยากจะประหยัดเงินและคิดว่าไม่เป็นไรถ้าตำรวจจับคงจะต่อรองได้ ในขณะที่ บางร้านก็คิดแค่อยากจะขายเท่านั้น แต่สำหรับเราอยากทำให้ถูกต้องมากกว่า เพราะเราไม่ได้ทำธุรกิจแบคิดแต่จะขายหรือต้องมีกำไรมากๆ แต่คิดว่าถ้าเราสามารถทำให้ธุรกิจยั่งยืนได้ ผลกำไรก็จะตามมาเอง นอกจากนี้ในอีกไม่เกิน 5 ปี ข้างหน้าค่าทะเบียนรถใหญ่นำเข้าจะเป็น 0% ทำให้โอกาสในการขายของเราสูงขึ้นอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม ชาญยุทธ มองอนาคตของธุรกิจนี้ว่า น่าจะเติบโตไปได้อีกนาน เพราะปัจจุบันค่ายรถญี่ปุ่นรายใหญ่เข้ามาเปิดศูนย์บริการรถบิ๊กไบค์ ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า ยามาฮ่า คาวาซากิ และซูซูกิ ซึ่งจะเป็นการเข้ามาช่วยขยายตลาด เพราะจะมีการกระตุ้นความนิยมให้เพิ่มมากขึ้น และจะเป็นประโยชน์โดยรวมเพราะไม่ใช้ลูกค้าทุกคนจะเข้าไปใช้บริการกับศูนย์ฯ ดังนั้น Gen 4 จึงเป็นทางเลือก
นอกจากนี้ ยังมองว่าเพราะผู้ชายทุกคนชอบความเร็วและใฝ่ฝันอยากจะมีรถบิ๊กไบค์เอาไว้ขับเล่น เพราะเสน่ห์อยู่ที่ความเท่ห์ของรถและเครื่องแต่งกาย รวมทั้งความสนุกกับการได้ขับขี่และได้มารวมกลุ่มพบปะคนที่ชอบเหมือนกัน
ในด้านการบริหารจัดการ ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเล็กๆ มีทีมงานประมาณ 10 คนเท่านั้น แต่หากไม่มีแนวทางและวิธีบริหารจัดการที่ดีจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้ไม่น้อย โดยเฉพาะบางส่วนในทีม ซึ่งมีความเป็นศิลปินชอบความอิสระ ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องระเบียบกฏเกณฑ์หรือความคิดแบบธุรกิจทำให้ต้องปรับตัว ทั้งการใช้คำพูด การแสดงออกและค่อยๆ ใส่ความคิดเข้าไปให้เกิดความเข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตาม แนวทางในการทำธุรกิจที่หุ้นส่วนทุกคนคิดตรงกันคือต้องซื่อตรงต่อลูกค้า ไม่ตีหัวเข้าบ้าน เพราะเชื่อว่าจะเป็นรากฐานให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน นอกเหนือจากการใช้ความสมารถที่มีอยู่อย่างเต็มที่
ที่มา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์
Tuesday, August 25, 2009
Ride For Their Lives! Home For Life Animal Sanctuary
Last weekend, I finally got to break out, and go for a ride. Any reason to ride is good, but riding for a cause you believe in is even better. I've been lacking on posting, commenting and riding lately due to storm season and my job. This has been keeping me more than busy. So it felt really, really good to get on the bike again. I put on about 350 miles last Saturday.
The ride was just another ride like any other good ride. There were lots of great twisty roads, and a good time to be had while enjoying beautiful scenery whilst rolling along on two wheels. I could have done this ride and likely a much better one with my friend Daren, whom I rode with, but the ride, or the "run" was only part of the reason to be out on two wheels this day. It was for the annual Ride for Their Lives Run. It was for the cause many of you know I deeply believe in. It was for the animals in need.
I rode in the "Ride For Their Lives" run.
This was sponsored by "Doc"Desio of St. Croix Harley-Davidson, and held for Home For Life. The Animal Sanctuary of St. Croix Valley, Inc.
Home For Life® is a new kind of animal shelter. It is a long-term animal sanctuary. Home for Life® provides lifetime care for special needs animals that while still able to lead quality lives but are unable to find a home due to age, chronic treatable disorders, handicaps or similar reasons.
Here are some pictures of the animals being helped, and some ride photos. Kudos to this wonderful organization!!!!!
Subscribe to:
Posts (Atom)