บริษัท คาวาซากิ ในญี่ปุ่น ประกาศโยกฐานการผลิตรถจักรยานยนต์มายังประเทศไทย เหตุค่าแรงถูกคุ้มทุนกว่า บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างหนังสือพิมพ์โยมิอูริ ฉบับวานนี้ว่า บริษัท คาวาซากิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น จะเริ่มโยกย้ายฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดกลางและรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ จากเดิมที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยภายในปี 2553 นี้ เนื่องจากไทยมีข้อได้เปรียบเรื่องค่าแรงที่ถูกกว่า ทั้งนี้ รายงานเปิดเผยว่า คาวาซากินับเป็นบริษัทญี่ปุ่นแห่งแรก ที่ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ทั้งหมดมายังประเทศตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ดีรายงานไม่ได้กล่าวรายละเอียดที่ชัดเจน ถึงช่วงเวลาและสถานที่ตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่แน่ชัด ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัท
ฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุด อันดับ 2 ในญี่ปุ่น ได้พิจารณาโยกย้ายฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยแล้ว แต่ไม่ได้รวมถึงรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ เนื่องจากติดข้อจำกัดด้านภาษี ในวันเดียวกันหนังสือพิมพ์นิกคัน โคเกียว ได้รายงานว่าบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น มีแผนที่จะผลิตรถยนต์ราคาถูกเพื่อป้อนกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในประเทศจีนและไทยโดยเฉพาะ ซึ่งจะเริ่มภายในปี 2553 นี้ ขณะเดียวกันรายงานยังกล่าวด้วย ว่าโตโยต้าตั้งเป้าจะผลิตรถยนต์ประเภทดังกล่าวในสายการผลิตที่เรียกว่า รถครอบครัวแบบเริ่มต้นที่ 1.5 แสนคัน ต่อปี เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กที่มีราคาถูกในกลุ่มประเทศ ตลาดเกิดใหม่
ที่มา หนังสือพิมพ์ Post Today
ฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุด อันดับ 2 ในญี่ปุ่น ได้พิจารณาโยกย้ายฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยแล้ว แต่ไม่ได้รวมถึงรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ เนื่องจากติดข้อจำกัดด้านภาษี ในวันเดียวกันหนังสือพิมพ์นิกคัน โคเกียว ได้รายงานว่าบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น มีแผนที่จะผลิตรถยนต์ราคาถูกเพื่อป้อนกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในประเทศจีนและไทยโดยเฉพาะ ซึ่งจะเริ่มภายในปี 2553 นี้ ขณะเดียวกันรายงานยังกล่าวด้วย ว่าโตโยต้าตั้งเป้าจะผลิตรถยนต์ประเภทดังกล่าวในสายการผลิตที่เรียกว่า รถครอบครัวแบบเริ่มต้นที่ 1.5 แสนคัน ต่อปี เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กที่มีราคาถูกในกลุ่มประเทศ ตลาดเกิดใหม่
ที่มา หนังสือพิมพ์ Post Today
No comments:
Post a Comment