Wednesday, June 30, 2010
California lawmakers back EPA compliant requirement for riders of new motorcycles
Posted June 29, 2010 Email this articleEmail Print this articlePrint
A key California State Assembly committee has endorsed a proposal to require motorcyclists to have EPA-compliant exhaust systems on their model year 2011 and newer motorcycles.
On June 28, the Committee on Transportation voted 8-4 to approve Senate Bill 435, introduced by Sen. Fran Pavley (D-Oxnard-Los Angeles), which would make it illegal to ride a motorcycle on the road built on, or after, Jan. 1, 2011, that doesn't display a federal Environmental Protection Agency (EPA) label certifying the exhaust system meets sound emissions standards.
Riders caught riding model year 2011 or newer motorcycles without this stamp would be issued "fix it" tickets by law enforcement officers.
The measure now goes to the Assembly Appropriations Committee for further consideration.
"Many EPA labels are very difficult to locate on motorcycles," said AMA Western States Representative Nick Haris. "This proposed law could lead to a flurry of tickets for motorcyclists who have legal exhaust systems on their machines with EPA labels that can't be easily seen. It's unreasonable to expect a law enforcement officer to easily locate an EPA label, and it's simply unfair to expect a motorcycle owner to partially dismantle an exhaust system alongside the road to prove the label exists.
"Requiring that a motorcycle display a readily visible EPA label isn't the correct way to address concerns about excessive motorcycle sound," he added. "The only objective way to determine whether a motorcycle complies with sound laws is for properly trained personnel to conduct sound level tests using calibrated meters and an agreed-upon testing procedure."
Haris suggested that concerned California motorcyclists contact their state lawmakers and urge them to reject Senate Bill 435. To do so, go here and select "CA" in the drop down menu.
The AMA has long maintained a position of strong opposition to excessive motorcycle sound. In September 2009, the AMA developed model legislation for use by cities and states seeking a simple, consistent and economical way to deal with sound complaints related to on-highway motorcycles within the larger context of excessive sound from all sources. The model legislation offers an objective method to evaluate motorcycle sound based on the Society of Automotive Engineers' (SAE) J2825 standard, "Measurement of Exhaust Sound Pressure Levels of Stationary On-Highway Motorcycles." For more information, click here.
Harley CEO Keith Wandell Will Ride to Sturgis Rally
Keith Wandell had his work cut out for him when he signed on as CEO of Harley-Davidson in April, 2009.
Not only did the 21 year veteran of automotively-oriented Johnson Controls join the bike builder in the midst of unprecedented turbulence, Wandell immediately questioned the efficiency of the company's York facility, jettisoned Buell and initiated the divestiture of MV Agusta, and even threatened to leave Harley's hometown of Milwaukee, Wisconsin if unions didn't slash their costs.
And talk about a crash course in Motorcycles 101: when he joined Harley, the non-riding Wandell was heralded by one paper as a "leader [who] lacks leathers, but not executive skill" in an article that also noted that since the company's management buyout in 1981, four consecutive CEOs came from within the company.
Wandell attempted to build credibility in his new two-wheeled leadership role by taking a Harley Rider's Edge course and acquiring a Hog of his own, and his latest venture involves riding to the Sturgis Rally along with fellow Harley big wigs. Setting out from Milwaukee on August 5, 2010, the executive group is encouraging regular Joes to join the ride and shoot the breeze at stops and dealer events along the way.
Can Wandell grasp the intangibles of the biker lifestyle through gradual immersion? And more importantly, does it matter whether Harley's CEO-- the leader of what is arguably the most internationally recognizable motorcycle company in the world-- is a Harley aficionado?
If you question Wandell's two-wheeled passion and his ability to shepherd H-D's recovery, consider the case of Alan Mulally. Though the ex-Boeing exec wasn't a rabid car enthusiast per se, his finance and managerial experience enabled him to turn the company around and avoid the bankruptcy fate that befell GM and Chrysler... but I'm glad to see you're taking this whole riding thing seriously, Mr. Wandell. While you're soaking it all in, it might-- at the very least-- help you understand what motivates folks to purchase your bikes and buy into that inimitable lifestyle your brand so effectively represents.
ขิงแก่คึกดันบิ๊กไบค์เกิด...ค่ายจยย.ยักษ์ขยับลุย
และแน่นอนแผนผลักดันดังกล่าว ย่อมต้องได้รับความสนใจจากค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันยึดตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กในไทยอยู่ เพราะก่อนหน้านี้ประกาศรุกตลาดบิ๊กไบค์แล้ว โดย “ยามาฮ่า” ลุยแน่นอนปลายปีนี้ พร้อมลงทุนกว่า 15 ล้านบาท เปิดโชว์รูมรองรับโดยเฉพาะ ขณะที่เจ้าตลาด “ฮอนด้า” แม้จะยังสงวนท่าที แต่ก็รับกำลังศึกษาแผนนำผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ๆ รวมถึงบิ๊กไบค์ หรือสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่มาเสริมตลาดเช่นกัน
หลังจากรัฐบาลขิงแก่ภายใต้การนำของ “พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” นายกรัฐมนตรี ได้ผลักดันโครงการรถประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ คลอดออกมาเป็นรูปเป็นร่าง และก็มีค่ายรถ “ฮอนด้า” เด้งรับลูกประกาศลงทุนไปแล้ว ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 6.2 พันล้านบาท และยังมีอีกหลายค่ายที่สนใจเช่นกัน เพียงแต่ต้องขอศึกษาตามกรอบเวลาที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ จึงยังไม่เปิดตัวออกมาชัดเจนเท่านั้น
โครงการอีโคคาร์จึงทำให้รัฐบาลขิงแก่ยิ้มแป้นทีเดียว และจะว่าไปแล้วถือเป็นผลงานชิ้นแรก ที่รัฐบาลขิงแก่ดำเนินการสำเร็จเป็นรูปธรรมชัดเจนก็ว่าได้ นี่จึงทำให้รัฐบาลขิงแก่ดูเหมือนจะคึกคักสุดขีด และเตรียมผลักดันโครงการใหม่ออกมาเสียบต่ออีโคคาร์ทันที
โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงอุตสาหกรรม “โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์” เปิดเผยภายหลังจากการเดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักรและอิตาลี่ ระหว่างวันที่ 25-29 กรกฏคมที่ผ่านมาว่า
จากการพูดคุยกับ นายจอห์น บลัวร์ ประธานบริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ อันดับ 7 ของโลก ภายใต้ชื่อยี่ห้อ “ไทรอัมพ์” ทราบว่าให้ความสนใจลงทุนในไทยเป็นมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี ในการสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนบิ๊กไบค์ และทำการประกอบ ที่จังหวัดระยอง โดยจะเริ่มผลิตเครื่องยนต์ในปี 2551 เป็นต้นไป
"จากการลงทุนของไทรอัมพ์ดังกล่าว ทำให้รัฐบาลสนใจที่จะขยายฐานการผลิตรถบิ๊กไบค์ เพื่อให้ครบวงจรมากขึ้น จากปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กที่สำคัญของโลกแล้ว โดยให้นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กำหนดแผนส่งเสริมการลงทนผลิตมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 500 ซีซีขึ้นไป ซึ่งทั่วโลกมีความต้องการมากกว่า 100,000 คันต่อปี"
ส่วนการกำหนดรายละเอียดการส่งเสริมการลงทุนคล้ายกับการผลิตรถยนต์อีโคคาร์ เพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถบิ๊กไบค์ของโลก และมั่นใจว่านอกเหนือจากไทรอัมพ์แล้ว ยังมีผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ในไทยอีก 2-3 ราย ที่จะให้ความสนใจนโยบายดังกล่าว คาดว่าแผนการส่งเสริมการลงทุนจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้
นั่นคือไอเดียบรรเจิดของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอุตสาหกรรม ซึ่งกลับมามีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ภายหลังจากผลักดันโครงการอีโคคาร์แจ้งเกิดสำเร็จ และจะว่าไปแล้วโอกาสผลักดันโครงการบิ๊กไบค์ให้สำเร็จ ดูจะง่ายกว่าอีโคคาร์เสียด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ปริมาณตลาดรถบิ๊กไบค์ในไทยเองก็ไม่ได้ใหญ่โตนัก การที่ไทรอัมพ์มาลงทุนผลิตชิ้นส่วนและประกอบในไทย คงน่าจะมาจากเรื่องของอัตราค่าแรงของไทยไม่สูงมาก ขณะที่ศักยภาพของผู้ผลิตชิ้นส่วนอยู่ในระดับมาตรฐานสากลอยู่แล้ว การมาตั้งโรงงานในไทยจึงมุ่งที่การส่งออกมากกว่า การชิงหักเหลี่ยมโหดของค่ายรถจักรยานยนต์เจ้าเก่าและเจ้าใหม่ จึงไม่น่าจะรุนแรงมากเหมือนกับรถยนต์ ยิ่งเมื่อรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนเป็นกรณีพิเศษคล้ายกับอีโคคาร์ จึงน่าจะทำให้แต่ละค่ายตอบรับด้วยดี
ในส่วนของไทรอัมพ์เป็นบิ๊กไบค์ที่เพิ่งเข้ามารุกตลาดไทยอย่างจริงจัง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากมีการชิมลางมาได้ระยะหนึ่ง ด้วยการแต่งตั้งบริษัท บริทไบค์ จำกัด ภายใต้การนำของพระเอกร่างบึก “ดอม เหตระกูล” และเพื่อนๆ เป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในไทย
สำหรับระยะแรกนี้บริทไบค์จะนำเข้าบิ๊กไบค์ไทรอัมพ์มาทำตลาดก่อน โดยในการเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการ ได้ประกาศจะนำเข้ารถมาทำตลาดในไทยทั้งสิ้น 12 รุ่น ครอบคลุม 3 สไตล์ การขับขี่ของผู้บริโภค ได้แก่ รถแบบโมเดิร์น คลาสสิค ซึ่งขับขี่ง่ายมีรุ่น Bonneville, Bonneville T100, Scramble และ Thruxton อีกแบบรถสปอร์ต เช่นรุ่น Daytona 675, Speed Triple, Sprint ST และ Tiger 1050 และสุดท้ายแบบครุยเซอร์ไลน์ซุปเปอร์เดินทางไกล อาทิ America, Speed Master, Rocket 3 และ Rocket 3 Classic
โดยบิ๊กไบค์ไทรอัมพ์ที่นำเข้ามาจำหน่าย จะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่คันละ 5 แสนบาท ไปจนถึง 1.2 ล้านบาท โดยบริทไบค์ รับประกัน 2 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยในส่วนของเครือข่ายนอกจากในกรุงเทพฯ ภายในสิ้นปีนี้เตรียมจะขยายครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยาด้วย
ต่อไปนี้คงต้องจับตาบิ๊กไบค์ยี่ห้อนี้ให้ดี แม้ปัจจุบันชื่อเสียงไทรอัมพ์ในเมืองไทย จะรู้จักกันเพียงเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่หากรัฐบาลขิงแก่ผลักดันและให้การสนับสนุนบิ๊กไบค์กรณีพิเศษสำเร็จ เชื่อว่าไทรอัมพ์จะประกาศศักดาแบรนด์รถระดับโลกให้ชาวไทยได้รับรู้กันมากกว่านี้แน่ๆ
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าบรรดาค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น จะปล่อยตลาดนี้ให้กับค่ายรถสัญชาติยุโรป อย่างไทรอัมพ์ที่กำลังเดินหน้าทั้งผลิตและขายในไทย หรือบีเอ็มดับเบิลยูที่ทำตลาดในไทยมาได้ระหนึ่งแล้ว เพราะบรรดารถจักรยานยนต์ญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจรุกตลาดบิ๊กไบค์อย่างจริงจังเช่นกัน
เริ่มจาก “ยามาฮ่า” ที่ประกาศชัดเจนปีนี้ทำตลาดบิ๊กไบค์แน่นอน โดยในงานมอเตอร์โชว์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้มีการนำบิ๊กไบค์ถึง 6 รุ่นมาเผยโฉมให้ลูกค้าได้ยลโฉม ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการช่วงปลายปีนี้ ที่สำคัญได้ลงทุนเตรียมเปิดโชว์รูมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ที่บริเวณด้านหลังศูนย์การค้าเอสพลานาด บนถนนรัชดาภิเษก เพื่อรองรับการทำตลาดบิ๊กไบค์เพียงอย่างเดียว ขณะที่ต่างจังหวัดเล็งขยายไปที่เชียงใหม่ และพัทยา เช่นเดียวกับไทรอัมพ์เพราะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจำนวนมาก
“บิ๊กไบค์ยามาฮ่าที่จะนำมาจำหน่าย มีตั้งแต่ขนาด 400-1300 ซีซี ราคาเริ่มต้นที่ 2-3 แสนบาทขึ้นไป แม้ตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยจะหดตัว แต่บิ๊กไบค์เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถประเภทนี้พิเศษ ราคาจึงไม่เป็นอุปสรรค์แต่อย่างใด โดยช่วงแรกยามาฮ่าตั้งเป้าขายเดือนละประมาณ 20 คัน”
จินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด กล่าวและว่า โดยรถที่จะนำเข้ามาทำตลาดคาดว่าจะเป็นรุ่น Majesty 400 บิ๊กสกู๊ตเตอร์ขนาด 400 ซีซี รุ่น YZF-R1 บิ๊กไบค์ขนาด 998 ซีซี รุ่น YZF-R6 ซูเปอร์สปอร์ตจากสนามแข่ง 599 ซีซี รุ่น FZ1 Fazer ขนาด 998 ซีซี FZ6 เครื่องยนต์ 600 ซีซี และรุ่น FJR1300A ขนาดเครื่องยนต์ 1298 ซีซี
ส่วนค่ายยักษ์ใหญ่ “ฮอนด้า” แม้จะยังไม่เผยไต๋ชัดเจนนัก ประกอบกับยังไม่ทราบถึงไอเดียผลักดันให้มีการผลิตบิ๊กไบค์ในไทย โดยการสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนเป็นกรณีพิเศษจากรัฐบาลชิงแก่ แต่ก่อนหน้านี้ก็แย้มออกมาถึงความสนใจที่จะขยายผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ๆ สู่ตลาดในไทย ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กไบค์ หรือสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่
“หากมองสภาวะตลาดขณะนี้ บิกไบค์และสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ ยังถือเป็นรถเฉพาะกลุ่มอยู่ แต่อนาคตก็ย่อมต้องขยายตัวมากขึ้น ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่ฮอนด้ากำลังศึกษาอยู่ ซึ่งในการเพิ่มไลน์สินค้าของฮอนด้า ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และแน่นอนก็ย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาตลาดรถประเภทนี้เมื่อไหร่ ฮอนด้าก็พร้อมที่จะทำตลาดเช่นกัน” ชินโกะ คิมาตะ กรรมการบรหารและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัดกล่าว
จากความเคลื่อนไหวของสองค่ายยักษ์ใหญ่รถจักรยานยนต์ในไทย โดยเฉพาะยามาฮ่าที่มีความชัดเจนแน่นอน กับการทำตลาดบิ๊กไบค์ในไทย หรือฮอนด้าที่แม้ะยังตอบแบบสงวนท่าทีอยู่ แต่ก็ยืนยันพร้อมจะทำตลาดเช่นกัน หากตลาดมีความต้องการ
เหตุนี้เมื่อรัฐบาลขิงแก่ประกาศนโยบายชัดเจน ที่จะผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตบิ๊กไบค์ของโลก ด้วยการสนับสนุนส่งเสริมเป็นกรณีพิเศษ เช่นเดียวกับอีโคคาร์ จึงน่าจะทำให้สองค่ายยักษ์ใหญ่ ที่มีโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ในไทยใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก พร้อมที่จะตอบรับทันทีเช่นกัน
เพิ่มเติม http://www.oknation.net
Tuesday, June 29, 2010
The GoldWing Wing Ding 32 Has Begun
As I drove home tonight I noticed that there were quite a few GoldWings traveling the streets of Des Moines. Then it dawned on me, the GoldWing Wing Ding started today! WELCOME to Des Moines, WINGERS! Glad to have you in the Capital City! They will be in Des Moines from June 30 to July 3.
I'm excited because I'm hoping to go watch the Light Parade Thursday night and the Parade through Des Moines on Friday night! Fun, Fun, Fun!!! I love a good parade and when it is all motorcycles that's even better!
Check out their site - Gold Wing Wing Ding
ยามาฮ่า'ซูเปอร์แบรนด์2010'
นายฟูมิอากิ นางาชิมา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ยามาฮ่าตอกย้ำแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดรถจักรยานยนต์ด้วยรางวัลชนะเลิศ ซูเปอร์แบรนด์ 2010 รางวัลที่ได้รับการการันตีด้วยผลสำรวจ และวิจัยจากผู้บริโภคและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกว่า 2,500 บริษัทในประเทศไทยเพื่อนำเสนอแบรนด์ที่เป็นที่สุด โดยยามาฮ่าเป็นหนึ่งเดียวที่ได้รับเลือกให้เป็น "ซูเปอร์แบรนด์แห่งปี" จากบริษัทที่เข้าร่วมทั้งหมดกว่า 6,280 แบรนด์ใน 79 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งแบรนด์ไทย และแบรนด์ต่างประเทศ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพของแบรนด์ที่เป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบรับความต้องการทุกการใช้งานของผู้บริโภคแล้ว ยามาฮ่ายังมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะ และเป็นผู้นำด้านการออกแบบด้วยดีไซน์ลงตัวสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งยังตอกย้ำความเป็นแบรนด์ผู้นำในการสร้างสรรค์กิจกรรมที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่ทุกกลุ่มเป้าหมาย
"ยามาฮ่ามีความภูมิใจเป็นอย่างมากกับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ โดยยามาฮ่าพร้อมมุ่งมั่นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา เพื่อการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีทางด้านต่างๆ เพื่อให้สามารถนำความพึงพอใจของลูกค้า และนำหน้าด้านเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ นอกจากการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์แล้วยามาฮ่ายังตระหนักถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญด้วยการจัดกิจกรรมการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นรางวัลซูเปอร์แบรนด์แห่งปีที่ได้รับในปีนี้นั้น ถือว่าเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จจากความพยายามในการสร้างสรรค์แบรนด์ให้มีความโดดเด่นและแข็งแกร่ง และมีความชัดเจนในฐานะผู้นำที่มีความแตกต่าง พร้อมกันนี้ยามาฮ่าพร้อมประกาศรักษามาตรฐานแบรนด์คุณภาพเพื่อครองใจผู้บริโภคต่อไป"
สำหรับยามาฮ่าได้สร้างกระแสความแตกต่าง และตื่นตัวในการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ยามาฮ่าให้กับกลุ่มลูกค้าได้อย่างชัดเจน และได้รับการตอบรับมากมาย จนทำให้ยามาฮ่าเป็นที่กล่าวถึงด้วยความชื่นชมทั้งในวงการอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ และจากผู้นำธุรกิจอื่นๆ รวมถึงจากแวดวงสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทำให้ยามาฮ่าเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ที่ดีเยี่ยมต่อทัศนคติของกลุ่มผู้ใช้ และมียอดขายที่ดีเกินความคาดหมาย และตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์ระบบออโตเมติกของยามาฮ่าอีกด้วย ซึ่งรางวัลดังกล่าวสามารถการันตีให้เห็นถึงความเป็นสุดยอดแบรนด์ส่งผลให้ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสายต่างๆ
เพิ่มเติม http://www.thannews.th.com
Monday, June 28, 2010
Sunday, June 27, 2010
Thanks Lady Godiva @ Motorcycle Everything and Everything Else
Motorcycle Everything and Everything Else
Motorcycle Travel America
Wiley De and Sam Elliott Comparison
Friday, June 25, 2010
Software Upgrade Offers Shipment Tracking
Good news!
Now you can get that and more - a linked tracking number that allows you to check shipment status with the click of a mouse. Simply go to Order History (link in the top black navigation bar) and enter the email and zip code you used on the order.
This enhancement applies to all orders placed on www.LeaderMotorcycle.com starting on June 11. (It does NOT apply to phone-in orders.) We hope you find this feature valuable and that it makes your experience with Leader Motorcycle even better!
Motorcycle Pictures of the Week - Cheryl
Here are my Pictures of the Week as displayed on the Motorcycle Views Website. These are taken from the Moto Pic Gallery. See Cheryl's grandfather, Edwin Wright, with his 1930s bike of unknown make and model. Do you recognize the bike? We need more pictures of men and women with their motorcycles. Get your picture in. For details, see Motorcycle Pictures of the Week.
If you'd like to see your bike as Picture of the Week, submit a picture of you and your bike along with a description of the bike.
"ฟีม" รั้งที่ 3 รอบซ้อม ดัตช์ ทีที
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามที่ 6 ของฤดูกาล 2010 รายการดัตช์ ทีที แข่งขันกันที่ แอสเซน เซอร์กิต ประเทศฮอลแลนด์ โดยเรซนี้เป็นเรซเดียวของปีที่รอบชิงชนะเลิศแข่งกันช่วงวันเสาร์ของสุดสัปดาห์แข่งขัน โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเป็นการ ลงสนามในรอบฝึกซ้อม
โดยในรุ่นโมโตทู 600 ซีซี "เจ้าฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทย โชว์ฟอร์มเยี่ยม หลังบิดรถ HB4 หมายเลข 14 คู่ใจ ทำเวลาต่อรอบ ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 3 จากนักบิด 40 คน ด้วยเวลา 1 นาที 40.172 วินาที ช้ากว่า อันเดร เอียนโนเนน บิดอิตาเลียนจากทีมสปีด อัพ ที่ทำเวลาอันดับหนึ่งอยู่ 0.599 วินาที
ภายหลังการนำรถลงจับเวลา นักบิดหน้าตี๋เผยเว็บไซต์ทีมแซคว่า "ผมมีความสุขมากกับความสมบูรณ์ของรถ โดยเฉพาะตัวรถบิโมตาที่ทำเวลาได้ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ผมยังไม่สามารถใส่เต็มๆได้ในบางโค้ง โดยเฉพาะโค้งความเร็วสูง แต่โดยรวมแล้วเรารถมาถูกทาง และหวังว่าจะทำให้เราควอลิฟายติดแถวหน้าได้เสียที"
ขณะที่ผลการฝึกซ้อมในรุ่นโมโตจีพี 800 ซีซี ฮอร์เก ลอเรนโซ นักบิดจากค่ายเฟีตย-ยามาฮา ที่ยังไม่มีเพื่อนร่วมทีมลงบิดในเรซนี้ ทำเวลาดีที่สุดที่ 1 นาที 35.169 วินาที โดยมี เคซีย์ สโตเนอร์ และนิคกี เฮย์เดน คู่หูจากดูคาติ ทำเวลาตามมาเป็นอันดับที่ 2 และ 3 ตามด้วยโคลิน เอ็ดเวิร์ดส์ ,อันเดรีย โดวิซิโอโซ และดานี เปโดรซา ตามลำดับ
สำหรับศึกมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกรายการ ดัตช์ ทีที จะแข่งขันรอบควอลิฟายเพื่อจัดกริดสตาร์ทในคืนวันศุกร์ที่ 25 มิ.ย.นี้ ก่อนที่จะชิงชนะเลิศกันในวันเสาร์ที่ 26 มิ.ย. โดยรุ่นโมโตทูจะเริ่มออกสตาร์ทเวลา 17.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/
คุณน้าวัย 41 ได้บิดแทน "รอสซี"
หลังจากที่ วาเลนติโน รอสซี ยอดนักบิดแชมป์โลก 9 สมัย ประสบอุบัติเหตุขาหักในรอบฝึกซ้อมศึกอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ที่สนามมูเจลโล ประเทศอิตาลีเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากการผ่านตัดนักบิดวัย 31 ปีจะต้องพักฟื้นเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 เดือนล่าสุด เฟียต-ยามาฮ่า ต้นสังกัดได้ประกาศแต่งตั้งให้ วาทารุ โยชิกาวา นักขับทดสอบประจำทีมวัย 41 ปี เข้ามาทำหน้าที่แทนเดอะด็อกเตอร์ตั้งแต่การแข่งขันรายการ คาตาลัน จีพี ที่สนามคาตาลุนญา ประเทศสเปน วันที่ 4 ก.ค.นี้ ไปจนกระทั้งเดอะด็อกเตอร์พร้อมกลัมมาแข่งขันอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้มีการคาดกันว่าเฟียต-ยามาฮ่า อาจจะตัดสินใจเลือกเบน สปีส์ นักบิดจากทีม เทคทรี-ยามาฮ่า ซึ่งเป็นทีมน้องในศึกโมโตจีพี ขึ้นมาทำหน้าที่แทนรอสซี ทว่าจากปัญหาบางประการทำให้ยามาฮาจำต้องเลือกใช้บริการนับบิดเจแปนนิส ที่เคยมีประสบการณ์บิดโมโตจีพีเพียง 1 สนามในปี 2002 ทำหน้าที่แทน
สำหรับ วาทารุ โยชิกาวา มีดีกรีแชมป์เจแปนนิส ซูเปอร์ไบค์ ในปี 1994 และ 1999 รวมถึงเคยแข่งขันซูเปอร์ไบค์ชิงแชมป์โลกในปี 1996 ปัจจุบันรถหน้าที่นักขับทดสอบรถยามาฮ่า YZR-M1ให้กับทีมแข่งปลาดิบ ก่อนจะได้รับโอกาสสำคัญลงแข่งโมโตจีพีอีกครั้งในวัย 41 ปี
เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/
"ฟีม" คึกลุยต่อดัตช์ทีทีเสาร์นี้
"ฟีม" ที่เก็บไป 12 แต้ม จาก 4 สนามแรกรั้งอันดับ 16 ในตารางแชมเปียนชิป หวังที่จะขยับอันดับโลกในตารางแชมเปียนชิปอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ หลังกำลังทำผลงานได้ดีต่อเนื่องภายใต้แข่ง HB4 คู่ใจ ด้วยการจบอันดับ 13 จากการออกสตาร์ทกริดที่ 24 ทั้งยังทำเวลาต่อรอบเร็วสุดเป็นที่ 3 ในศึกบริติช จีพี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยนักบิดวัย 22 ปี เผยก่อนเดินทางไปยังประเทศฮอลแลนด์เพื่อลงบิดสนามที่ 5 ของฤดูกาลว่า "หลังจบศึกบริติช จีพี ทั้งผมและทีมงานใจจดจ่อไปที่การแข่งขัยสนามต่อไปทันที เนื่องจากรถของเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการทำเวลาต่อรอบได้เป็นที่ 3 ในเรซที่แล้ว ซึ่งทำให้ผมมั่นใจลึกๆว่าจะมีผลงานที่ยอดเยี่ยมที่แอสเซนสุดสัปดาห์นี้"
สำหรับการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามที่ 5 ของฤดูกาล 2010 รายการดัตช์ ทีที ซึ่งเป็นรายการเดียวที่แข่งวันเสาร์ จะมีขึ้นที่สนามแอสเซน เซอร์กิต ประเทศฮอลแลนด์ วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายนนี้ โดยรุ่นโมโตทูจะแข่งขันกันเวลา 17.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
เพิ่มเติม http://www.manager.co.th
Wednesday, June 23, 2010
BMW Recalls 2005-2007 R1200GS Adventure Motorcycles for Fuel Tank Bolt Problem
The fuel tank front attachment bolts can work loose allowing the bolts to come into contact with the fork leg if the handlebar is turned a significant amount.
The number of units affected has not been announced.
Check out my Motorcycle Recalls feature for more details.
MV Agusta Recalls 2010 F4 for Air Cleaner Problem
These motorcycles are equipped with an air filter frame, P/N 8000B4061, which may lift out of position, allowing intake air to bypass the filter.
66 units are affected.
Check out my Motorcycle Recalls feature for more details.
GRAB LIFE BY THE HANDLEBARS
BMW Recalls 2007-2009 K1200 and R1200 Series Motorcycles for Brake Line Problem
Due to the current routing of the front brake lines, it is possible that during riding, and therefore associated vibration, the brake lines could be under strain. If the vibration/strain is significant, the brake line could split and start to develop a leak.
15532 units are affected.
Check out my Motorcycle Recalls feature for more details.
Tuesday, June 22, 2010
บ่อนเทใจ "ลอเรนโซ" แชมป์โลก
ลอเรนโซ ที่ต้องลงแข่งในสังกัดเฟียต-ยามาฮา เพียงลำพัง เนื่องจากวาเลนติโน รอสซี เพื่อนร่วมทีมประสบอุบัติเหตุขาหักและต้องพักร่วม 6 เดือน เพิ่งจะคว้าแชมป์กรังด์ปรีซ์ที่ 3 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ หลังควบนำม้วนเดียวจบคว้าชัยรายการบริติช กรังด์ปรีซ์ ที่สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ลอเรนโซ ที่ต้องลงแข่งในสังกัดเฟียต-ยามาฮา เพียงลำพัง เนื่องจากวาเลนติโน รอสซี เพื่อนร่วมทีมประสบอุบัติเหตุขาหักและต้องพักร่วม 6 เดือน เพิ่งจะคว้าแชมป์กรังด์ปรีซ์ที่ 3 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ หลังควบนำม้วนเดียวจบคว้าชัยรายการบริติช กรังด์ปรีซ์ ที่สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โดยในเวลานี้รองแชมป์โลกโมโตจีพี 2009 ขยับมีแต้มนำในตารางแชมป์เปียนชิปเป็น 125 คะแนน นำหน้าอันเดรีย โดวิซิโอโซ นักบิดอิตาเลียน และดานี เปรโดรซา นักบิดเพื่อนร่วมชาติ จากเรปโซล-ฮอนด้าอยู่ถึง 37 และ 42คะแนนตามลำดับ
ขณะเดียวกันจากการที่คู่แข่งแย่งแชมป์อย่างรอสซีต้องพักยาว ทำให้บริษัทรับพนันแบบถูกกฎหมายในยุโรป พากันเทใจออกอัตราให้ลอเรนโซเป็นเต็งแชมป์โลกแบบไร้คู่ต่อกร โดยสกายเบ็ตออกราคาให้ ลอเรนโซคว้าแชมป์โลกไว้ที่ 1/14 (แทง 14 ได้ 1) ขณะที่เต็ง 2 เปโดรซา ตามมาแบบไม่เห็นฝุ่นที่ราคา 7/1 (แทง 1 ได้7)
ส่วน วิลเลียมส์ ฮิลล์ ของอังกฤษ ก็ยกให้นักบิดวัย 23 ปี จากสเปนคว้าแชมป์โลกที่ 1/10 (แทง 10 ได้ 1) โดยมีเต็ง 2 เปโดรซา ที่ราคา 6/1 (แทง 1 ได้6) และเต็ง 3 เป็น โดวิซิโอโซ ที่อัตรา 20/1 (แทง 1 ได้ 20 ) ขณะที่บ่อนดังอย่างแลดโบร็กส์ มั่นใจว่าลอเรนโซจะเป็นแชมป์โลกด้วยการปิดรับแทงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อัตราเต็งแชมป์โลกโมโตจีพี 2010 (สกายเบ็ต)
ลอเรนโซ 1/14
เปโดรซา 7/1
โดวิซิโอโซ 16/1
สโตเนอร์ 25/1
รอสซี ,เฮย์เดน 80/1
เดอ บูเนต์ 200/1
สปีส์ 400/1
เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/
"ฟีม" มั่นขึ้นโพเดียมอยู่ไม่ไกล
นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก เก็บคะแนนสะสมได้เป็นสนามที่ 2 จาก 5 สนามในฤดูกาลนี้ หลังโชว์ฟอร์มเยี่ยมในรายการบริติช กรังด์ปรีซ์ ประเทศอังกฤษ ที่สนามซิลเวอร์สโตน จากการออกตัวกริดที่ 24 และจบการแข่งขันอันดับ 13 ได้สำเร็จ ตามหลังผู้ชนะ 10 วินาที
พร้อมกันนี้ "เจ้าฟีม" ที่เก็บเพิ่มเป็น 12 แต้มรั้งอันดับ 16 ในตารางแชมเปียนชิปรุ่นโมโตทู ยังสร้างผลงานในรถ HB4 หมายเลข 14 ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการทำเวลาต่อรอบดีที่สุดด้วยเวลา 2 นาที 10.283 วินาที เป็นอันดับที่ 3 จากนักบิด 40 คนที่ลงแข่งขันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยหลังทำผลงานเก็บแต้มได้อีกครั้งฟีมเปิดใจว่า "น่าเสียดายที่เราทำได้ไม่ดีนักในวันคลอลิฟาย เพราะในวันแข่งขันรถของผมสมบูรณ์แบบเอามากๆ ตั้งแต่การออกตัวที่แซงรถกลุ่มหน้าได้ชุดใหญ่ ก่อนจะไปลุ้นชิงอันดับ 9 ในช่วงท้าย แต่สุดท้ายการพลาดเล็กๆน้อยๆของผมทำให้เราจบอันดับ 13 และมีแต้มอีกครั้ง"
พร้อมกันนี้นักบิดหน้าตี๋ยังเอ่ยปากชมทีมงานแซคและทีมเทคนิคจากบิโมตา ที่ช่วยเซ็ตอัพรถได้อย่างลงตัวว่า "เวลาต่อรอบแสดงให็เห็นว่าเราเร็วสู้กับพวกหัวแถวได้ ซึ่งต้องขอบคุณทีมงานทุกคนที่ทำงานอย่างหนักกับรถคนนี้ และผมมั่นใจว่าหากเรารักษามาตรฐานได้ โอกาสลุ้นโพเดียมที่ผมฝันไว้อยู่ไม่ไกลแน่นอน"
สำหรับฟีมมีคิวนำรถลงแข่งขันสนามต่อไปซึ่งเป็นเรซที่ 6 ของฤดูกาล รายการดัตช์ ทีที 2010 ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในวันเสาร์ที่ 26 มิถุนายนนี้
เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/
Vo Knows
Steve Atlas
Steve Atlas
Executive Editor|Blog|Blog RSS|Articles|Articles RSS
Professional-grade speed and an attitude to match, Executive Editor Steve Atlas is the new blood at MotoUSA. Atlas has AMA racing creds that are even more extensive than his driving record.
2011 Kawasaki Ninja ZX-10R Breaks Cover
Monday, June 21, 2010
Atlas power-wheelies the Kawasaki out of the final corner.
The 2010 Kawasaki ZX-10R did well in our Superbike Smackdown for a three-year-old model. Now some details about the all-new 2011 model have surfaced and it's going to be all-new...
Kawasaki has released limited details today regarding the rumors surrounding their all-new 2011 Ninja ZX-10R. The just of it is, well…it’s totally new.
While no specific details beyond a new frame, engine, suspension and a total redesign from the ground up have been released, it’s now official that the rumors are true and the brand new bike will be released next year despite tough economic times. It is stated on the website that the bike’s primary focus will be to win World Superbike races. It is also widely known that part of current Kawasaki WSB racer Chris Vermeulen’s contract is to aid in developing the new machine into a winner. Put two and two together and there’s no question racetrack performance is a top priority of Team Green.
Be sure to check out the design sketch and video at: www.kawasaki-challenge.com
Email - Print - Discuss
Should You Buy a New Harley Davidson
You may think that purchasing a new motorcycle is as easy as simply picking a model, going to the nearest dealer and paying for it. Well this is not true, especially if this is going to be your first motorcycle. It is important for you to know that owning a Harley Davidson is comparable to owning a legend. Therefore, you should look at it as an investment, not just a purchase. Since a Harley Davidson is also expensive, you need to know what you want, what you need and what you can handle before you make the purchase.
Before you purchase a new bike, you really should do some research since not all Harley Davidsons are suitable for cruising. In other words, just because a bike looks good does not mean that it is the right one for you. Instead, you are going to want to take the time to find one that runs well, is comfortable for you to ride and handle. If you are just starting out, then you may want to start with a smaller bike until your skills improve.
You will find that touring bikes are actually the heaviest of the Harley Davidson bikes. These bikes range in price from $16,000 to more than $20,000 without you even customizing them. Models include the FLHR Road King, FLHRS Road King Custom, FLHRC Road King Classic, FLHX Street Glide, FLTR Road Glide, FLHT Electra Glide Standard, FLHTC Electra Glide Classic and FLHTCU Ultra Classic Electra Glide.
If you would like a slightly smaller bike that is also faster, then you should go for the VRSC models. These bikes include the VRSCAW V-Rod, VRSCD Night Rod, VRSCXD Night Rod Special, VRSCX and VRSCR Street Rod. You will pay between $14,000 and $20,000 for these bikes.
For something even lighter than that you will want to check out the Softail models, which cost between $14,000 and $18,000. These models include the FXST Softail Standard (a bare bones model), FXSTB Night Train, FXSTC Softail Custom, FXSTD Softail Deuce, FLSTF Fat Boy, FLSTN Softail Deluxe, FLSTSC Softail Springer Classic and the FLSTC Heritage Softail Classic.
There are also the Dyna models, which sell for between $12,000 and $17,000. These models include the FXD Dyna Super Glide, FXDC Dyna Super Glide Custom, FXDB Dyna Street Bob, FXDL Dyna Low Rider and FXDWG Dyna Wide Glide.
Now if you are in search for the lightest Harley bike that you can buy, then you will want the Sportster model, which cost between $6,500 and $10,000. At the upper end of this price range you will find the special 50th Anniversary limited addition model. Other models that are available include the XL Sportster 883, XL883L Sportster 883 Low, XL883C Sportster 883 Custom, XL883R Sportster 883, XL1200N Sportster 1200 Nightster, XL1200C Sportster 1200 Custom, XL1200R Sportster 1200 Roadster and XL1200l Sportster 1200 Low.
Some riders think that the Sportster is the most difficult bike to ride even though it is so light. This is because of the high placement of its gas tank and the bikes center of gravity. For this reason, you should test drive it first instead of simply assuming that you will like the way that it rides.
Regardless as to which model you choose, you should test drive it before you purchase it. Actually get on a new bike, start it up and listen to the engine. Take the time to feel its vibrations and go for a ride. It is possible that you may need to actually test drive several different models before you purchase your new Harley.
Monday, June 21, 2010
“คลินิกรถเครื่อง” แนะเคล็ดลับถนอมรถคู่ใจสิงห์นักบิด
นายพิเชฐ ตังคไชยนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลินิกรถเครื่อง จำกัด บริษัทในเครือกลุ่มสิทธิผล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่ได้ รับการยอมรับและไว้วางใจจากผู้บริโภคและบริษัทผู้ผลิตรถมายาวนานกว่า 90 ปี เปิดเผยว่า “การผลิตรถ แต่ละคันจะต้องมีชิ้นส่วนอะไหล่ประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก การเลือกซื้ออะไหล่จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ควรเลือกซื้ออะไหล่ที่ดีมีคุณภาพ เพื่อลดความสิ้นเปลืองและเสริมสร้างสมรรถนะในการขับขี่ ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ความปลอดภัยสูง และประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง
บริษัท คลินิกรถเครื่อง จำกัด เล็งเห็นว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับสภาพรถของตนเองเป็น อย่างดี เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินที่มีสถิติสูงขึ้นเป็นลำดับ จึงขอแนะนำเคล็ดลับการสังเกตเลือกซื้ออะไหล่รถที่ได้คุณภาพ รวมถึงการดูแลรักษารถในเบื้องต้นด้วยตนเอง ดังนี้
1.ยางรถ เลือกขนาดและชนิดของยางให้เหมาะสมกับขนาดของรถ หมั่นตรวจเช็คความดันลมยางในให้อยู่ในค่ามาตรฐานในขณะที่ยางยังเย็นอยู่หรือ ก่อนการใช้งานเสมอ และตรวจลมยางใน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อเดินทางไกลควรสูบลมเพิ่ม 1-2 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ไม่ควรบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป หรือขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนในยางสูงและหลีกเลี่ยง การเบรกกะทันหัน หรือการออกตัวรุนแรง ซึ่งจะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็ว
2.โซ่และสเตอร์ ควรดูแลตรวจสอบความตึงหย่อนของโซ่ทุกๆ สัปดาห์ อีกทั้งไม่ควรตั้งโซ่ ให้ตึงเกินไป เพราะจะทำให้ทั้งโซ่และสเตอร์สึกหรอมาก การบำรุงรักษาโซ่ควรหล่อลื่นด้วยน้ำมันเกียร์เป็นประจำ กรณีที่มีคราบสกปรกมากควรใช้แปรงล้างด้วยน้ำมันโซล่าหรือเบนซิน โซ่และสเตอร์มีอายุการใช้งานประมาณ 10,000 กิโลเมตรเมื่อถึงระยะเวลาเปลี่ยนควรเปลี่ยนทั้งชุด
3.หลอดไฟ ควรเลือกหลอดไฟของแท้ที่ได้มาตรฐานรับรองจากหน่วยงาน เช่น มาตรฐานยุโรป (ECE) มาตรฐานญี่ปุ่น (JIS) เป็นต้น ไม่ควรใช้หลอดไฟวัตต์สูงเกินกว่ามาตรฐานของรถแต่ละรุ่น อีกทั้งควรพกหลอดไฟสำรองติดรถไว้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไกลเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุควร “เปิดไฟ ใส่หมวกกันน็อค” ทุกครั้งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์
4.น้ำมันหล่อลื่น ควรเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นแบบ 4 จังหวะ หรือออโต้ลูป2 จังหวะ ที่มีคุณภาพและมาตรฐานรับรองโดยสถาบันหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเลือกเบอร์ความหนืดให้เหมาะกับชนิดของเครื่องยนต์และสภาพการใช้งานของรถ สังเกตว่าน้ำมันไม่เป็นตะกอนหรือยางเหนียว รวมทั้งหมั่นตรวจเช็คให้ระดับอยู่ในเกณฑ์เพียงพอ หรือเปลี่ยนถ่ายตามระยะกำหนดการใช้งาน
5.หัวเทียน ควรเลือกเขี้ยวหัวเทียนที่มีรูปร่องตัวยู เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการสร้างประกายไฟสำหรับจุดระเบิด ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เกิดการเผาไหม้ที่หมดจด ปราศจากคราบเขม่าอันเป็นสาเหตุให้หัวเทียนบอด กินน้ำมัน เครื่องยนต์สะดุดและสตาร์ทติดยาก ควรหมั่นสังเกตตรวจดูสภาพหัวเทียน โดยสภาพปกติจะมีคราบสีเทาหรือสีน้ำตาลที่ปลายฉนวน
6.สายพานรถออโตเมติก ควรเลือกที่สามารถโค้งงอตัวได้ดีซึ่งช่วยระบายความร้อนและยืดอายุการใช้งาน เนื้อยางต้องทำจากยางสังเคราะห์ เพราะสามารถทนต่อแรงเสียดสี ช่วยให้ส่งกำลังได้ดี หลีกเลี่ยงสายพานไม่ให้ถูกน้ำ น้ำมัน สารเคมี สี หรือสารแปลกปลอมเพราะทำให้สายพานเกิดการ ลื่นไถลขณะใช้งานได้ นอกจากนี้ต้องหมั่นตรวจสอบสภาพสายพานตามระยะทางที่ผู้ผลิตกำหนด
ที่มา http://www.thaipr.net/
Saturday, June 19, 2010
It Was Time for a Little Change...
I wish you all a wonderful weekend. I hope you fill your unwritten pages with many memories!!
BMW Recalls 2008-2009 F650GS and F800GS Motorcycles for Drive Chain Problem
The drive chains may not have been produced to specification. As a result, over time the drive chain could break.
The number of units affected has not been announced.
Check out my Motorcycle Recalls feature for more details.
BMW Recalls 2007-2008 G650X, G650X Country, and G650X Moto Motorcycles for Roll Gear Pin Mounting Attachment Failure
Over time, the roll gear pin's mounting attachment could break. If this occurs, it would be possible for fragments of the attachment to become trapped between the drive chain and the rear sprocket.
The number of units affected has not been announced.
Check out my Motorcycle Recalls feature for more details.
Friday, June 18, 2010
Motorcycle Pictures of the Week - Norman & Dorothy
If you'd like to see your bike as Picture of the Week, submit a picture of you and your bike along with a description of the bike.
A Triumph Tiger Custom
This 1971 Triumph T100 is called Boy Racer and it’s from a new Italian shop called Grease Monkey. Owners Gianluca Tiepolo and Max Trono are into old school bikes with a twist; they’ve come up with a machine that has a light-hearted, almost rococo feel. The intricate paintwork is certainly attention-grabbing—it reminds us of Sucker Punch Sally’s Fender Triumph—but the underpinnings are solid and conventional. The 498 cc parallel twin motor has been completely rebuilt, and the frame reconfigured as a bobber-style rigid. Grease Monkey has aimed for a compact look and shortened the front fork by just over an inch (30mm), which also makes the bike more agile. The wheels are 19 and 18 inches, but the frame can handle a 21/16 setup for a more custom look. It’s a bike designed to be ridden: the erratic original electrics have been replaced by a 12-volt system and electronic ignition, but vintage lights and Smiths instruments keep the visuals authentic. It’s a good start: I think we’ll be hearing more from Grease Monkey in the future.
Sponsored by
Victrace Sitebuilding