การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี 2009” ก็ผ่านเข้าสนามที่ 9 เมื่อวันอาทิตย์ที่19 กรกฎาคม 52 ทำการแข่งขัน ณ สนามซาจเซนริ่ง ประเทศเยอรมัน ทำการแข่งขันทั้งหมด 30 รอบสนาม “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ บิดยามาฮ่า M1 สู้ศึกกับคู่แข่งได้อย่างสนุก ก่อนผ่านเส้นชัย คว้าแชมป์ครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ เกาะติดมาด้วยทีมเมทยามาฮ่าเฟี๊ยตสุดฮ๊อต จอร์เก้ ลอเรนโซ่ ที่ทะยาน M1 เบอร์ 99 จี้เข้าเส้นด้วยระยะห่างเพียง 0.099 วินาทีเท่านั้น
ควอลิฟายวันเสาร์ปรากฏว่ามีฝนตกลงมา สภาพสนามซาจเซนริ่งที่คดเคี้ยวมีความยาวต่อรอบถึง 3,671 เมตรเป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ไม่น้อยทีเดียว แต่สองนักบิดทีมยามาฮ่าเฟี๊ยต วาเลนติโน่ รอสซี่ และจอร์เก้ ลอเรนโซ่ บนรถยามาฮ่า YZR-M1 กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยรอสซี่คว้าตำแหน่งโพลโพสิชั่น หรือตำแหน่งที่ดีที่สุดในการออกสตาร์ทด้วยเวลา 1 นาที 32.520 วินาที นับเป็นการคว้าตำแหน่งโพลครั้งที่ 54 ในอาชีพนักแข่งของเขา ทิ้งห่างลอเรนโซ่ที่อยู่ในอันดับสองถึง 0.640 วินาที ส่วนอันดับสุดท้ายของตำแหน่งควอลิฟายในแถวแรกก็ไม่ใช่ใครนี่ไหน เคซี่ สโตนเนอร์ นักบิดทีมโรงงานดูคาตี้ที่ตามหลังลอเรนโซ่อยู่ 0.6 วินาทีเช่นกัน
การแข่งขันในวันอาทิตย์ รอสซี่ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ทะยานขึ้นนำตั้งแต่โค้งแรก เกาะติดด้วยแดเนี่ยล เปโดรซ่า และเคซี่ สโตนเนอร์ ส่วนลอเรนโซ่ทำได้ไม่ดีนัก อันดับร่วงไปอยู่ที่ 6 โค้งแรกก่อนไล่แซงจนขึ้นมาอันดับ 4 หลังจบรอบแรก หลังจากนั้นลอเรนโซ่ก็ถูกอังเดร โดวิซิโอโซ่ไล่กดดันอย่างหนัก แต่เมื่อลอเรนโซ่ปรับจังหวะขับขี่ของตัวเองได้ เขาก็ทิ้งห่างโดวิซิโอโซ่ที่รถเริ่มมีปัญหา ไล่ตามกลุ่มหน้าทั้ง 3 คันที่อยู่ห่างออกไป 1.5 วินาที
ในรอบที่ 7 รอสซี่ก็เสียตำแหน่งผู้นำให้กับ สโตนเนอร์ หลังแซงเปโดรซ่าขึ้นมาได้ไม่นาน และในรอบที่ 10 ลอเรนโซ่ก็ตามติดเปโดรซ่าก่อนแซงขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3 ซึ่งอันดับหัวแถวไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งจนผ่านไปอีก 10 รอบสนาม รอสซี่ได้จังหวะยกลึกแซงสโตนเนอร์ในโค้งลงเขาในรอบที่ 18 เช่นเดียวกับลอเรนโซ่ ก็กระแทกคันเร่งยามาฮ่า M1 รีดท็อปสปีดแซงสโตนเนอร์ในช่วงสุดทางตรงก่อนเข้าโค้งแรก ซึ่งทั้งคู่ก็ทำความเร็วทิ้งคู่แข่งอันดับ 3 และ 4 ได้อย่างเหนือชั้น ก่อนจะเปิดศึกสายเลือดระหว่างนักบิดยามาฮ่าอีกครั้งในฤดูกาลนี้
หลังจากกดดันรอสซี่มาโดยตลอด รอบที่ 26 ลอเรนโซ่ แซงรอสซี่ในช่วงทางตรงก่อนยกลึกเข้าโค้งแรกยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ แต่ด้วยประสบการณ์ที่เก๋าเกมกว่า หลังจากดูจังหวะขับขี่ของลอเรนโซ่ รอสซี่ก็แซงคืนในโค้งแรกได้อย่างเฉียบขาดในรอบที่ 29 แม้ลอเรนโซ่จะไล่ไม่ลดละ แต่รอสซี่ก็นำยามาฮ่า M1 ผ่านเส้นชัย คว้าแชมป์ครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ
จากชัยชนะในครั้งนี้ ก็ทำให้ “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซึ่ แห่งทีมยามาฮ่าเฟี๊ยต เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก 8 สมัย ยังคงนำเป็นจ่าฝูงตารางคะแนนสะสมต่อไป โดยเขามีคะแนนรวม 176 แต้ม นำลอเรนโซ่อยู่ 14 แต้ม ส่วนลอเรนโซ่ก็นำสโตนเนอร์อยู่ 14 แต้มเช่นกัน ซึ่งโมโตจีพี 2009 ยังเหลือการแข่งขันอีก 8 สนาม โดยสนามที่ 10 จะทำการแข่งขันในประเทศอังกฤษ ณ สนามโดนิงตันปาร์ค ในอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม นี้ หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน วาเลนติโน่ รอสซี่ ให้สัมภาษณ์ว่า
“ผมคิดว่านี่คืออีกหนึ่งเกมแข่งขันที่ผู้ชมต้องชื่นชอบเพราะนักบิดหัวแถวทั้ง 4 คนได้ขับเคี่ยวและหาจังหวะแซงได้อย่างสนุกตลอดเกมแข่งขัน เรารู้ว่าวันนี้เกมไม่หมูอย่างแน่นอนเพราะขับขี่กันได้ดีทุกคน ซึ่งมันทำให้ผมพอใจกับตำแหน่งแชมป์ที่คว้ามาได้ วันนี้ผมขับขี่ได้ดี และทีมงานก็สามารถปรับเซ็ทยามาฮ่า M1 ได้อย่างยอดเยี่ยม ผมสามารถออกสตาร์ทได้ดี ขับเคี่ยวกับสโตนเนอร์ได้อย่างสนุกตั้งแต่ช่วงแรกของเกม ผมทำเวลาได้เร็วกว่าเขานิดหน่อยแต่สามารถรักษาเวลาได้ตลอด จนช่วงท้ายของเกมก็ต้องสู้กับลอเรนโซ่อีกครั้ง...แต่วันนี้ผมขี่ได้ท็อปฟอร์มมาก โดยเฉพาะหลังโดนลอเรนโซ่แซง และผมไม่ต้องการแค่อันดับ 2 โชคดีที่ผมได้จังหวะแซงคืน จากนั้นผมก็ขับขี่ได้อย่างเยี่ยมในรอบสุดท้าย ไม่มีผิดพลาดเลย ต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคน นี่คือแชมป์ครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ และผมคิดว่า ยามาฮ่า YZR-M1 คือรถที่เยี่ยมยอดมากในฤดูกาลนี้ ตอนนี้เรามีคะแนนนำเพิ่มขึ้นอีกนิดนึงแล้ว ผมหวังว่าจะทำอันดับได้ดีอีกครั้งในสนามหน้า ซึ่งโดนิงตันปาร์คก็เป็นอีกหนึ่งสนามที่ผมชื่นชอบ”
จอร์เก้ ลอเรนโซ่ อันดับ 2 ก็มีความคิดเห็นในสนามนี้ว่า “วันนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่ยากมากเพราะสนามนี้ไม่สามารถใช้ความเร็วได้เต็มที่และมีโค้งฉวัดเฉวียน ทำให้นักแข่งต้องใช้กำลังในการควบคุมรถมากที่สุดตลอดเวลา การเกาะติดรอสซี่ได้ถือเป็นความท้าทายมากสำหรับผม เพราะผมไม่สามารถออกกำลังได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่สนามลากูน่า ผมรู้สึกดีใจที่สามารถกดดันเขาในช่วงท้ายเกมได้ การแซงรอสซี่เป็นอะไรที่ยากมากเพราะเขาเบรกลึก และลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดของผมที่แซงเขาเร็วเกินไป และผมไม่สามารถทิ้งห่างเขาได้ ทำให้รอสซี่มีเวลาแก้ตัว แน่นอนว่าผมต้องผิดหวังเพราะแชมป์อยู่แค่เอื้อมเท่านั้น แต่ในอีกมุมนึงผมก็ควรดีใจเพราะผลการแข่งขันแสดงให้เห็นว่าผมสามารถขับเคี่ยวกับเขา ได้เรียนรู้ประสบการณ์ของเขา และผมยังมีเวลาอีกมากในโมโตจีพี”
เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/News/View.aspx?ID=996
ควอลิฟายวันเสาร์ปรากฏว่ามีฝนตกลงมา สภาพสนามซาจเซนริ่งที่คดเคี้ยวมีความยาวต่อรอบถึง 3,671 เมตรเป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ไม่น้อยทีเดียว แต่สองนักบิดทีมยามาฮ่าเฟี๊ยต วาเลนติโน่ รอสซี่ และจอร์เก้ ลอเรนโซ่ บนรถยามาฮ่า YZR-M1 กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยรอสซี่คว้าตำแหน่งโพลโพสิชั่น หรือตำแหน่งที่ดีที่สุดในการออกสตาร์ทด้วยเวลา 1 นาที 32.520 วินาที นับเป็นการคว้าตำแหน่งโพลครั้งที่ 54 ในอาชีพนักแข่งของเขา ทิ้งห่างลอเรนโซ่ที่อยู่ในอันดับสองถึง 0.640 วินาที ส่วนอันดับสุดท้ายของตำแหน่งควอลิฟายในแถวแรกก็ไม่ใช่ใครนี่ไหน เคซี่ สโตนเนอร์ นักบิดทีมโรงงานดูคาตี้ที่ตามหลังลอเรนโซ่อยู่ 0.6 วินาทีเช่นกัน
การแข่งขันในวันอาทิตย์ รอสซี่ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ทะยานขึ้นนำตั้งแต่โค้งแรก เกาะติดด้วยแดเนี่ยล เปโดรซ่า และเคซี่ สโตนเนอร์ ส่วนลอเรนโซ่ทำได้ไม่ดีนัก อันดับร่วงไปอยู่ที่ 6 โค้งแรกก่อนไล่แซงจนขึ้นมาอันดับ 4 หลังจบรอบแรก หลังจากนั้นลอเรนโซ่ก็ถูกอังเดร โดวิซิโอโซ่ไล่กดดันอย่างหนัก แต่เมื่อลอเรนโซ่ปรับจังหวะขับขี่ของตัวเองได้ เขาก็ทิ้งห่างโดวิซิโอโซ่ที่รถเริ่มมีปัญหา ไล่ตามกลุ่มหน้าทั้ง 3 คันที่อยู่ห่างออกไป 1.5 วินาที
ในรอบที่ 7 รอสซี่ก็เสียตำแหน่งผู้นำให้กับ สโตนเนอร์ หลังแซงเปโดรซ่าขึ้นมาได้ไม่นาน และในรอบที่ 10 ลอเรนโซ่ก็ตามติดเปโดรซ่าก่อนแซงขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3 ซึ่งอันดับหัวแถวไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งจนผ่านไปอีก 10 รอบสนาม รอสซี่ได้จังหวะยกลึกแซงสโตนเนอร์ในโค้งลงเขาในรอบที่ 18 เช่นเดียวกับลอเรนโซ่ ก็กระแทกคันเร่งยามาฮ่า M1 รีดท็อปสปีดแซงสโตนเนอร์ในช่วงสุดทางตรงก่อนเข้าโค้งแรก ซึ่งทั้งคู่ก็ทำความเร็วทิ้งคู่แข่งอันดับ 3 และ 4 ได้อย่างเหนือชั้น ก่อนจะเปิดศึกสายเลือดระหว่างนักบิดยามาฮ่าอีกครั้งในฤดูกาลนี้
หลังจากกดดันรอสซี่มาโดยตลอด รอบที่ 26 ลอเรนโซ่ แซงรอสซี่ในช่วงทางตรงก่อนยกลึกเข้าโค้งแรกยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ แต่ด้วยประสบการณ์ที่เก๋าเกมกว่า หลังจากดูจังหวะขับขี่ของลอเรนโซ่ รอสซี่ก็แซงคืนในโค้งแรกได้อย่างเฉียบขาดในรอบที่ 29 แม้ลอเรนโซ่จะไล่ไม่ลดละ แต่รอสซี่ก็นำยามาฮ่า M1 ผ่านเส้นชัย คว้าแชมป์ครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ
จากชัยชนะในครั้งนี้ ก็ทำให้ “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซึ่ แห่งทีมยามาฮ่าเฟี๊ยต เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก 8 สมัย ยังคงนำเป็นจ่าฝูงตารางคะแนนสะสมต่อไป โดยเขามีคะแนนรวม 176 แต้ม นำลอเรนโซ่อยู่ 14 แต้ม ส่วนลอเรนโซ่ก็นำสโตนเนอร์อยู่ 14 แต้มเช่นกัน ซึ่งโมโตจีพี 2009 ยังเหลือการแข่งขันอีก 8 สนาม โดยสนามที่ 10 จะทำการแข่งขันในประเทศอังกฤษ ณ สนามโดนิงตันปาร์ค ในอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม นี้ หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน วาเลนติโน่ รอสซี่ ให้สัมภาษณ์ว่า
“ผมคิดว่านี่คืออีกหนึ่งเกมแข่งขันที่ผู้ชมต้องชื่นชอบเพราะนักบิดหัวแถวทั้ง 4 คนได้ขับเคี่ยวและหาจังหวะแซงได้อย่างสนุกตลอดเกมแข่งขัน เรารู้ว่าวันนี้เกมไม่หมูอย่างแน่นอนเพราะขับขี่กันได้ดีทุกคน ซึ่งมันทำให้ผมพอใจกับตำแหน่งแชมป์ที่คว้ามาได้ วันนี้ผมขับขี่ได้ดี และทีมงานก็สามารถปรับเซ็ทยามาฮ่า M1 ได้อย่างยอดเยี่ยม ผมสามารถออกสตาร์ทได้ดี ขับเคี่ยวกับสโตนเนอร์ได้อย่างสนุกตั้งแต่ช่วงแรกของเกม ผมทำเวลาได้เร็วกว่าเขานิดหน่อยแต่สามารถรักษาเวลาได้ตลอด จนช่วงท้ายของเกมก็ต้องสู้กับลอเรนโซ่อีกครั้ง...แต่วันนี้ผมขี่ได้ท็อปฟอร์มมาก โดยเฉพาะหลังโดนลอเรนโซ่แซง และผมไม่ต้องการแค่อันดับ 2 โชคดีที่ผมได้จังหวะแซงคืน จากนั้นผมก็ขับขี่ได้อย่างเยี่ยมในรอบสุดท้าย ไม่มีผิดพลาดเลย ต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคน นี่คือแชมป์ครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ และผมคิดว่า ยามาฮ่า YZR-M1 คือรถที่เยี่ยมยอดมากในฤดูกาลนี้ ตอนนี้เรามีคะแนนนำเพิ่มขึ้นอีกนิดนึงแล้ว ผมหวังว่าจะทำอันดับได้ดีอีกครั้งในสนามหน้า ซึ่งโดนิงตันปาร์คก็เป็นอีกหนึ่งสนามที่ผมชื่นชอบ”
จอร์เก้ ลอเรนโซ่ อันดับ 2 ก็มีความคิดเห็นในสนามนี้ว่า “วันนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่ยากมากเพราะสนามนี้ไม่สามารถใช้ความเร็วได้เต็มที่และมีโค้งฉวัดเฉวียน ทำให้นักแข่งต้องใช้กำลังในการควบคุมรถมากที่สุดตลอดเวลา การเกาะติดรอสซี่ได้ถือเป็นความท้าทายมากสำหรับผม เพราะผมไม่สามารถออกกำลังได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่สนามลากูน่า ผมรู้สึกดีใจที่สามารถกดดันเขาในช่วงท้ายเกมได้ การแซงรอสซี่เป็นอะไรที่ยากมากเพราะเขาเบรกลึก และลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดของผมที่แซงเขาเร็วเกินไป และผมไม่สามารถทิ้งห่างเขาได้ ทำให้รอสซี่มีเวลาแก้ตัว แน่นอนว่าผมต้องผิดหวังเพราะแชมป์อยู่แค่เอื้อมเท่านั้น แต่ในอีกมุมนึงผมก็ควรดีใจเพราะผลการแข่งขันแสดงให้เห็นว่าผมสามารถขับเคี่ยวกับเขา ได้เรียนรู้ประสบการณ์ของเขา และผมยังมีเวลาอีกมากในโมโตจีพี”
เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/News/View.aspx?ID=996
No comments:
Post a Comment