Friday, August 6, 2010

จิอากิ คาโต อยากเห็น เอ.พี.ฮอนด้าเป็นผู้นำตลาดโลก

หลังจากเข้ามารับตำแหน่งนายใหญ่แห่งค่ายรถจักรยานยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง เอ.พี.ฮอนด้า มาช่วงระยะเวลาหนึ่ง วันนี้ "จิอากิ คาโต" นายใหญ่ ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้พบปะ รวมทั้งได้อัพเดตสถานการณ์และความเคลื่อนไหวของ เอ.พี.ฮอนด้า ว่าวันนี้ความสำเร็จในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมากับส่วนแบ่งตลาด 69% อะไรคือปัจจัยที่นำพา

ความสำเร็จในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา

สำหรับยอดขายรถจักรยานยนต์ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่าตลาดโดยรวมมียอดขายสูงถึง 933,219 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนซึ่งทำได้ที่

750,000 คัน และฮอนด้ามียอดขาย 641,481 คัน โตเพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อนที่ทำได้ 640,000 คัน และมีส่วนแบ่งตลาด 69% สาเหตุที่ทำให้ตลาดโตเพิ่มขึ้นนั้น เรามองว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเมื่อช่วงครึ่งปีหลังของปี 2552 ตลาดรถจักรยานยนต์ได้ลดลงไปค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจ แต่หลังจากเดือนตุลาคมเป็นต้นมาตลาดเริ่มดีขึ้น ลูกค้าที่ชะลอการตัดสินใจซื้อรถ ได้หันกลับมาซื้อรถตลาดช่วง 6-8 เดือนที่ผ่านมา

เป้าหมายของ เอ.พี.ฮอนด้าในปีนี้

สำหรับปีนี้เชื่อว่าตลาดรถจักรยานยนต์น่าจะอยู่ในระดับ 1.78 ล้านคัน และเติบโตเพิ่มขึ้น 16% ส่วนฮอนด้านั้นคาดว่าจะมี ยอดขายอยู่ที่ 1.22 ล้านคัน และเติบโตมากกว่าตลาดรวมที่ 20% รวมทั้งมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 69% ซึ่งสถานการณ์ วันนี้เรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถทำได้ตามแผนงานที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

นโยบายหลังเข้ามาดูแลตลาดไทย

สำหรับนโยบายหรือแนวทางการบริการนั้น แน่นอนเราต้องยึดมั่นแนวทางและหลักปรัชญา การบริการของ "ฮอนด้า" ซึ่งเรา มุ่งเน้นและให้ยึดใน 2 เรื่องหลัก คือ การเคารพความเป็นปัจเจกบุคคล และความยินดี 3 ประการ คือ ยินดีซื้อ, ยินดีขาย และยินดีบริการ ซึ่งนโยบายนี้จะเป็นแนวนโยบายเดียวกันกับบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น

ความคืบหน้ารถบิ๊กไบก์

ตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบก์นั้น ฮอนด้ามีความตั้งใจและพยายามมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้วว่า ต้องการนำสินค้าประเภทนี้เข้ามาเสริมไลน์ และสร้างภาพลักษณ์ในประเทศไทย แต่ช่วงที่ผ่านมา อย่างที่ทุกคนทราบดีว่า อุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ และเราก็เช่นเดียวกัน ทำให้การดำเนินงานในโครงการนี้ล่าช้าออกไป

แต่วันนี้สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น และฮอนด้าเราก็กำลังพิจารณาแผนงานในเรื่องนี้อยู่ เราตั้งใจจะแบ่งปันความสุขไปยังกลุ่มผู้ชื่นชอบ และนิยมใช้รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ด้วย

มีโอกาสจะได้เห็นใช้ไทยเป็นฐานบิ๊กไบก์หรือไม่

ถ้าจะพูดในแง่ของขนาดเครื่องยนต์ซึ่งวันนี้ประเทศไทยมีการผลิตรถหลายระดับ ซีซี แต่ถ้าซีซีสูงขึ้นไปกว่านี้ เราคิดว่าน่าจะเป็นการนำเข้าเหมาะสมกว่า บวกกับตอนนี้รัฐบาลไทยก็ได้ให้การสนับสนุน ผ่านเงื่อนไขทางการค้า หรือเอฟทีเอต่าง ๆ ซึ่งไทยได้ทำกับหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งฮอนด้ามองว่าในอนาคตจะได้ใช้ประโยชน์จากตรงนี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะกับรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ และสำหรับบิ๊กไบก์ ปีนี้เราคงจะทำออกมาไม่ทันอย่างแน่นอน

ผลตอบรับของรถจักรยานยนต์พรีเมี่ยม ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์

ในส่วนของฮอนด้า พีซีเอ็กซ์นี้ ถือว่ากระแสตอบรับค่อนข้างดีมาก ๆ ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งมีสัดส่วนยอดขายพอ ๆ กัน ปีนี้เราตั้งเป้าจะมียอดขายรถรุ่นนี้ไว้ที่ 35,000 คัน สำหรับตลาดในประเทศ ซึ่งวันนี้ผ่านมา 6 เดือนมียอดขายไปแล้วกว่า 20,000 คัน ซึ่งเราพอใจมาก ๆ

และอนาคตอันใกล้นี้ ฮอนด้าก็จะมีการพัฒนารถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ในรูปแบบคล้าย ๆ กับพีซีเอ็กซ์ขึ้นมาอีก 1 รุ่น และเราหวังว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศยุทธศาสตร์สำคัญในการผลิตรถจักรยานยนต์ที่มีความแข็งแกร่ง และมีคุณภาพของฮอนด้า สำหรับรถสปอร์ตรุ่นใหม่นี้ จะเป็นรถที่ได้รับการพัฒนาระดับเดียวกับพีซีเอ็กซ์ หรืออาจจะสูงกว่า

- กังวลกับสถานการณ์ในประเทศหรือไม่

ไม่มีอะไรที่กังวลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะปัจจัยที่เราสามารถควบคุมได้ ฮอนด้าไม่มีความกังวลแต่อย่างใด แต่ที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ จนเป็นเหตุให้ ส่งผลกระทบไปยังเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย และอนาคตถ้ามีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้นี้เกิดขึ้น มันก็ยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวลในระยะสั้นเท่านั้น

อย่างในปีนี้ เรามีแผนในการทำตลาดและมีกิจกรรมต่าง ๆ รออยู่ค่อนข้างมาก เดือนตุลาคมที่จะถึงเราจะเตรียมงานฉลองวันเกิดครบรอบ 1 ปีให้กับฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ, การส่งรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด หรือแม้แต่กิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ เราก็จะยังคงจัดต่อเนื่องตลอดทั้งปี และถ้าการดำเนินงานทุกอย่างเป็นไปตามแผนเหมือนช่วงครึ่งปีแรก "ผมเอง" ก็คงไม่มีอะไรต้องทำมากนัก เพราะวันนี้คน เอ.พี.ฮอนด้าทุกคนสามารถทำทุกอย่างได้ดีแล้ว

หรือแม้แต่ปีหน้าจะถือเป็นอีก 1 ปีที่สำคัญของ เอ.พี.ฮอนด้า เพราะจะเป็นปีฉลองความสำเร็จของการเข้ามาดำเนินธุรกิจครบรอบ 25 ปีในประเทศไทยของ เอ.พี.ฮอนด้าด้วย และเราก็อยากจะให้เกิดสิ่งดี ๆ ในปีนี้

ส่วนแบ่งทางการตลาดลดลงหรือไม่

ความจริงแล้ว ส่วนแบ่งตลาดนั้น เรามองว่ามันคือผลที่เกิดขึ้น แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ลูกค้าจะตัดสินใจเลือกใช้รถอะไรมากกว่า วันนี้ เอ.พี.ฮอนด้าเราพยายามทำธุรกิจบนพื้นฐานของความถูกต้อง มีคุณธรรม และ ผู้ใช้จะเลือกรถยี่ห้ออะไร ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ใช้

การลงทุนเพิ่มเติม

ในทุก ๆ ปีเราจะมีการลงทุนอยู่แล้ว ที่โรงงานของไทยฮอนด้า สำหรับการลงทุนหลักของเรา ในประเทศอินเดีย-อินโดนีเซียนั้นจะเป็นการลงทุนขยายกำลังการผลิตส่วนการลงทุนในประเทศไทย หลักใหญ่จะเป็นการลงทุนพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานการผลิต ด้วยการเน้นเทคโนโลยีชั้นสูงมากกว่า

มองสัดส่วนตลาดจะเปลี่ยนเป็นรถเอทีมากขึ้น

สัดส่วนของรถเอทีในปัจจุบันนี้ยังไม่ถึง 60% ของตลาด แต่เราเชื่อว่าในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ สัดส่วนของรถเอทีจะปรับเพิ่มเป็น 2/3 ของตลาดรถจักรยานยนต์ทั้งหมด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าความต้องการของรถครอบครัวจะลดน้อยลง

การแข่งขันของตลาดเมืองไทย

การแข่งขันของตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยนั้น ยังถือว่ามีการแข่งขันที่ไม่รุนแรงมากนัก และเราก็ไม่ได้อยากจะ แข่งขันกับใคร เรามองเพียงแค่ป้อนสินค้าให้กับลูกค้าได้ตามความต้องการ เราอยากสร้างความคึกคักให้กับตลาด และแน่นอน เราอยากให้ เอ.พี.ฮอนด้าเป็นผู้นำตลาดโลก และวันนี้รถจักรยานยนต์ของเรา ถือว่า ก้าวหน้าที่สุดในโลก และเราจะต้องพัฒนาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วย

เพิ่มเติม http://prachachat.net/

No comments:

Post a Comment