"ฮอนด้า" ย้ำชัด ยกระดับไทยขึ้นชั้นฐานผลิตใหญ่ เผยการลงทุนตั้งศูนย์อาร์แอนด์ดีในไทยคือการส่งสัญญาณชัดเจน ไม่กังวลปัญหาการเมืองภายใน ปท. ปลื้มตลาด "มอเตอร์ไซค์" เจ๋ง ฮอนด้ามีกำไรต่อเนื่องสวนเศรษฐกิจโลกได้นั้น เพราะน้ำเลี้ยงจากธุรกิจสองล้อ
นายทาคาโนบุ อิโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ฮอนด้าญี่ปุ่นให้น้ำหนักและความสำคัญประเทศไทยมาก โดยวางเป้าหมายที่จะยกระดับเพิ่มขีดความสามารถให้เทียบชั้นสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน โดยมั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตที่ยิ่งใหญ่
นายอิโต้กล่าวว่า การลงทุนด้วยเม็ด เงินเพื่อตั้งศูนย์พัฒนาและวิจัยสินค้า (อาร์แอนด์ดี) ของภูมิภาคเอเชียโอเชียเนีย ซึ่งใช้พื้นที่กว่า 95 ไร่ ย่านวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ถือเป็นศูนย์แห่งที่ 4 นอกประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนในการยกระดับ ซึ่งจะช่วยพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งการพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ วัตถุดิบเพื่อการผลิตและใช้ได้เองภายในภูมิภาค รวมถึงศูนย์อาร์แอนด์ดีของรถจักรยานยนต์ที่ใช้เม็ดเงินไปกว่า 850 ล้านบาท เป?นขอพิสูจนการใหความสำคัญไดอยางดี นายอิโต้กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะมีปัญหาบางด้าน โดย เฉพาะด้านการเมือง ซึ่งหลายคนมองว่ายังไม่มีเสถียรภาพ แต่ฮอนด้าไม่ได้มองปัญหาข้างต้นมีผลกระทบ ยังคงเดินหน้าลงทุนกับโครงการต่าง ๆ ในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดฮอนด้าได้ประกาศเข้าร่วมลงทุนในโครงการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานหรืออีโคคาร์เป็นเจ้าแรก เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการพัฒนารถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ส่วนการพัฒนารถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือกประเภทอื่น ๆ ฮอนด้าก็ยังเดินหน้าอย่างเป็นระบบ ทั้งรถประเภทไฮบริด รถ ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ว่ารถรุ่นใดจะเหมาะสมกับ ผู้บริโภคชาวไทยมากที่สุด ขณะเดียวกันในส่วนของรถจักรยานยนต์นั้น ฮอนด้าก็ได้พัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่จะวางขายในอนาคตด้วย
"ขณะนี้กระแสของรถยนต์พลังงานทางเลือกมีเสียงตอบรับค่อนข้างแรง อย่างในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ครั้งที่ผ่านมา ฮอนด้าก็ได้นำเสนอรถยนต์พลังงานอย่าง FCX ซึ่งใช้พลังงานได้ 2 ระบบ และน่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายของรถยนต์ในอนาคต ส่วนรถไฮบริดเราจะนำเข้ามาทำตลาดในไทยอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องรักษาสมดุลระหว่างต้นทุนการผลิตกับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์" นายอิโต้กล่าว
นายอิโต้กล่าวถึงตลาดรถจักรยานยนต์ว่า ฮอนด้ายังคงให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นตลาดที่สร้างผลตอบแทนค่อนข้างมาก จะเห็นได้ว่าตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอยของโลกจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไม่เว้น แม้แต่ผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ของโลก แต่สำหรับฮอนด้า แม้ว่าจะเผชิญกับปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน แต่โดยรวมแล้วผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา พบว่ายังมีกำไรอยู่ ซึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ฮอนด้าไม่ขาดทุนเป็นผลเนื่องมา จากการมีธุรกิจรถจักรยานยนต์เข้ามาช่วยสนับสนุน
โดยเฉพาะตลาดรถจักรยานยนต์ในภูมิภาคเอเชียที่เข้ามาชดเชยในส่วนของภูมิภาคอื่น ๆ ที่ถดถอย ดังนั้นจึงเป็นคำตอบที่ชัดเจนอย่างยิ่งที่จะย้ำถึงความสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะความเป็นเจ้าตลาดรถจักรยานยนต์ของภูมิภาคนี้
"แม้ว่าตลาดในอินโดนีเซียจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก แต่โดยภาพใหญ่แล้ว ไทยยังคงเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ และยังเป็นผู้นำธุรกิจอยู่"
เพิ่มเติม http://www.prachachat.net
นายทาคาโนบุ อิโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ฮอนด้าญี่ปุ่นให้น้ำหนักและความสำคัญประเทศไทยมาก โดยวางเป้าหมายที่จะยกระดับเพิ่มขีดความสามารถให้เทียบชั้นสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน โดยมั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตที่ยิ่งใหญ่
นายอิโต้กล่าวว่า การลงทุนด้วยเม็ด เงินเพื่อตั้งศูนย์พัฒนาและวิจัยสินค้า (อาร์แอนด์ดี) ของภูมิภาคเอเชียโอเชียเนีย ซึ่งใช้พื้นที่กว่า 95 ไร่ ย่านวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ถือเป็นศูนย์แห่งที่ 4 นอกประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนในการยกระดับ ซึ่งจะช่วยพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งการพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ วัตถุดิบเพื่อการผลิตและใช้ได้เองภายในภูมิภาค รวมถึงศูนย์อาร์แอนด์ดีของรถจักรยานยนต์ที่ใช้เม็ดเงินไปกว่า 850 ล้านบาท เป?นขอพิสูจนการใหความสำคัญไดอยางดี นายอิโต้กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะมีปัญหาบางด้าน โดย เฉพาะด้านการเมือง ซึ่งหลายคนมองว่ายังไม่มีเสถียรภาพ แต่ฮอนด้าไม่ได้มองปัญหาข้างต้นมีผลกระทบ ยังคงเดินหน้าลงทุนกับโครงการต่าง ๆ ในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดฮอนด้าได้ประกาศเข้าร่วมลงทุนในโครงการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานหรืออีโคคาร์เป็นเจ้าแรก เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการพัฒนารถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ส่วนการพัฒนารถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือกประเภทอื่น ๆ ฮอนด้าก็ยังเดินหน้าอย่างเป็นระบบ ทั้งรถประเภทไฮบริด รถ ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ว่ารถรุ่นใดจะเหมาะสมกับ ผู้บริโภคชาวไทยมากที่สุด ขณะเดียวกันในส่วนของรถจักรยานยนต์นั้น ฮอนด้าก็ได้พัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่จะวางขายในอนาคตด้วย
"ขณะนี้กระแสของรถยนต์พลังงานทางเลือกมีเสียงตอบรับค่อนข้างแรง อย่างในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ครั้งที่ผ่านมา ฮอนด้าก็ได้นำเสนอรถยนต์พลังงานอย่าง FCX ซึ่งใช้พลังงานได้ 2 ระบบ และน่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายของรถยนต์ในอนาคต ส่วนรถไฮบริดเราจะนำเข้ามาทำตลาดในไทยอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องรักษาสมดุลระหว่างต้นทุนการผลิตกับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์" นายอิโต้กล่าว
นายอิโต้กล่าวถึงตลาดรถจักรยานยนต์ว่า ฮอนด้ายังคงให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นตลาดที่สร้างผลตอบแทนค่อนข้างมาก จะเห็นได้ว่าตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอยของโลกจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไม่เว้น แม้แต่ผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ของโลก แต่สำหรับฮอนด้า แม้ว่าจะเผชิญกับปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน แต่โดยรวมแล้วผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา พบว่ายังมีกำไรอยู่ ซึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ฮอนด้าไม่ขาดทุนเป็นผลเนื่องมา จากการมีธุรกิจรถจักรยานยนต์เข้ามาช่วยสนับสนุน
โดยเฉพาะตลาดรถจักรยานยนต์ในภูมิภาคเอเชียที่เข้ามาชดเชยในส่วนของภูมิภาคอื่น ๆ ที่ถดถอย ดังนั้นจึงเป็นคำตอบที่ชัดเจนอย่างยิ่งที่จะย้ำถึงความสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะความเป็นเจ้าตลาดรถจักรยานยนต์ของภูมิภาคนี้
"แม้ว่าตลาดในอินโดนีเซียจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก แต่โดยภาพใหญ่แล้ว ไทยยังคงเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ และยังเป็นผู้นำธุรกิจอยู่"
เพิ่มเติม http://www.prachachat.net
No comments:
Post a Comment