สตาเลี่ยนส์ รีแบรนดิ้ง เปลี่ยนผู้ถือหุ้น ปรับโครงสร้างใหม่ ตั้ง"เพาเวอร์ สตาเลี่ยนส์" ทำหน้าที่จัดจำหน่ายเพียงรายเดียวในไทย ส่งมอเตอร์ไซค์จิ๋ว ตระกูลมินิ สร้างความแปลกใหม่ เจาะลูกค้าอินเทรนด์
นายเจริญ ลาภล้นเหลือหลาย ประธานกรรมการ บริษัท พาวเวอร์ สตาเลี่ยนส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์สตาเลี่ยน เปิดเผยว่า หลังจากที่ผลักดันรถจักรยานยนต์แบรนด์ สตาเลี่ยน(Stallion) เข้าสู่ตลาดรถจักรยานยนต์ไทย ในนามบริษัท โปร ไบค์ จำกัด ล่าสุดได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ โดยตั้ง บริษัท เดอะ สตาเลี่ยนส์ฯ โดยทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตและพัฒนาสินค้า นอกจากนี้ ยังตั้ง บริษัท เพาเวอร์ สตาเลี่ยนส์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาทเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ เปลี่ยนแบรนด์ Stallion เป็น Stallions และเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหม่ ประกอบด้วยนายเจริญ ลาภล้นเหลือหลาย นายเกรียงไกร ลาภจตุรพิธ และนายธงชัย ลาภจตุรพิธ พร้อมดึงผู้บริหารมืออาชีพมากประสบการณ์อย่าง นายสุเทพ คงคราญ และนายสุรชัย พิพัฒน์ศิริศักดิ์ มาร่วมบริหารงานด้วย เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ที่ต้องการความปราดเปรียวและแข็งแกร่งเฉกเช่นม้าศึกที่คึกคะนองอยู่เสมอ พร้อมส่งโมเดลใหม่ Stallions Mini รถจักรยานยนต์ขนาดจิ๋ว เครื่องยนต์ ขนาด 50-125 ซีซี ราคา 35,500-39,500 บาท ออกมาจำหน่ายด้วย
"ความเป็นมาของสตาเลี่ยนเริ่มต้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยมีโปร ไบค์ คอยดูแลบริการอยู่ เราจึงอยากสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น โดยจัดตั้งบริษัท เดอะสตาเลี่ยนส์ฯ และบริษัท เพาเวอร์ สตาเลี่ยนส์ฯ ขึ้นมาซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหม่ด้วย ในส่วนของโลโกได้มีการเปลี่ยนจากคำว่า "Stallions" จะมีตัว S เพิ่มขึ้นมา ส่วนตัวม้าใช้รูปม้าสีแดงคู่แทนรูปม้าตัวเดียว ซึ่งแสดงถึงการรวมพลังกัน นอกจากนี้เรายังได้ทีมบริหารมืออาชีพระดับอดีตผู้บริหารจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการ หลายๆ ท่านมาช่วยในส่วนงานบริหารต่างๆ ด้วย ทำให้รถจักรยานยนต์สตาเลี่ยน มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น"
นายเจริญ กล่าวต่อไปว่า แนวคิดการตลาดของสตาเลี่ยนส์ มีเป้าหมายให้เป็นแบรนด์ทางเลือกหนึ่งของเมืองไทย และเป็นตัวเลือกที่แตกต่าง ภายใต้สโลแกนว่า "More Than Motorcycle" หรือ "มากกว่าคำว่ามอเตอร์ไซค์" ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ได้จากเราคือ ความแตกต่าง โดยบริษัทจะจัดกิจกรรมสำหรับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ทางบริษัทได้จัดพื้นที่พิเศษทั้งภายใน-ภายนอกโชว์รูมเพื่อให้สมาชิกได้พบปะ พูดคุย จัดกิจกรรม และเป็นที่นัดหมายของกลุ่มลูกค้าสตาเลี่ยนส์ โดยไม่คิดมูลค่า เพื่อสร้างสังคมชาวรถจักรยานยนต์มินิให้เหนียวแน่น และที่สำคัญในเรื่องการบริการหลังการขายที่แปลกใหม่ จะช่วยแก้ปัญหาโดยที่ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาศูนย์บริการ เพียงใช้อินเตอร์เน็ตก็จะสามารถแก้ปัญหาของลูกค้าได้
"รถจักรยานยนต์ สตาเลี่ยนส์ มีทั้งหมด 3 ประเภท คือรถครอบครัว ซึ่งภายในปีนี้จะได้เห็นรถรุ่นใหม่หลากหลายสไตล์ที่เคยผ่านตาในงานมอเตอร์โชว์มาจำหน่าย อีกประเภทคือรถ SMEs หรือรถพ่วงข้างที่มาต่อยอดธุรกิจให้กับผู้ใช้ และสุดท้ายเป็นรถอินเทรนด์ซึ่งกำลังโปรโมตอยู่อย่างรถจักรยานยนต์สายพันธุ์ Mini ทั้ง 3 รุ่น คือ Mini MOMO ,Mini GIO และ Mini SOLO
โดยไม่คาดหวังกับยอดขายมากนัก เพราะต้องการโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะถือว่ารถประเภทนี้ยังเป็นกลุ่มเล็กๆ น่าจะเป็นตัวเลือกให้กับผู้ใช้มากกว่า ยังไม่คิดที่จะแข่งกับใครนอกจากแข่งกับตัวเอง และมีเป้าหมายให้เป็นรถได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพได้มาตรฐาน มีบริการหลังการขายเป็นเยี่ยม และสามารถจัดกิจกรรมที่ดี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รกจักรยานยนต์ในตระกูล Mini ได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะรุ่น Mini GIO เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยรูปลักษณ์โดดเด่น และสีทูโทนที่ดูสวยงาม"
เพิ่มเติม http://www.thannews.co.th/
นายเจริญ ลาภล้นเหลือหลาย ประธานกรรมการ บริษัท พาวเวอร์ สตาเลี่ยนส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์สตาเลี่ยน เปิดเผยว่า หลังจากที่ผลักดันรถจักรยานยนต์แบรนด์ สตาเลี่ยน(Stallion) เข้าสู่ตลาดรถจักรยานยนต์ไทย ในนามบริษัท โปร ไบค์ จำกัด ล่าสุดได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ โดยตั้ง บริษัท เดอะ สตาเลี่ยนส์ฯ โดยทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตและพัฒนาสินค้า นอกจากนี้ ยังตั้ง บริษัท เพาเวอร์ สตาเลี่ยนส์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาทเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ เปลี่ยนแบรนด์ Stallion เป็น Stallions และเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหม่ ประกอบด้วยนายเจริญ ลาภล้นเหลือหลาย นายเกรียงไกร ลาภจตุรพิธ และนายธงชัย ลาภจตุรพิธ พร้อมดึงผู้บริหารมืออาชีพมากประสบการณ์อย่าง นายสุเทพ คงคราญ และนายสุรชัย พิพัฒน์ศิริศักดิ์ มาร่วมบริหารงานด้วย เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ที่ต้องการความปราดเปรียวและแข็งแกร่งเฉกเช่นม้าศึกที่คึกคะนองอยู่เสมอ พร้อมส่งโมเดลใหม่ Stallions Mini รถจักรยานยนต์ขนาดจิ๋ว เครื่องยนต์ ขนาด 50-125 ซีซี ราคา 35,500-39,500 บาท ออกมาจำหน่ายด้วย
"ความเป็นมาของสตาเลี่ยนเริ่มต้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยมีโปร ไบค์ คอยดูแลบริการอยู่ เราจึงอยากสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น โดยจัดตั้งบริษัท เดอะสตาเลี่ยนส์ฯ และบริษัท เพาเวอร์ สตาเลี่ยนส์ฯ ขึ้นมาซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหม่ด้วย ในส่วนของโลโกได้มีการเปลี่ยนจากคำว่า "Stallions" จะมีตัว S เพิ่มขึ้นมา ส่วนตัวม้าใช้รูปม้าสีแดงคู่แทนรูปม้าตัวเดียว ซึ่งแสดงถึงการรวมพลังกัน นอกจากนี้เรายังได้ทีมบริหารมืออาชีพระดับอดีตผู้บริหารจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการ หลายๆ ท่านมาช่วยในส่วนงานบริหารต่างๆ ด้วย ทำให้รถจักรยานยนต์สตาเลี่ยน มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น"
นายเจริญ กล่าวต่อไปว่า แนวคิดการตลาดของสตาเลี่ยนส์ มีเป้าหมายให้เป็นแบรนด์ทางเลือกหนึ่งของเมืองไทย และเป็นตัวเลือกที่แตกต่าง ภายใต้สโลแกนว่า "More Than Motorcycle" หรือ "มากกว่าคำว่ามอเตอร์ไซค์" ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ได้จากเราคือ ความแตกต่าง โดยบริษัทจะจัดกิจกรรมสำหรับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ทางบริษัทได้จัดพื้นที่พิเศษทั้งภายใน-ภายนอกโชว์รูมเพื่อให้สมาชิกได้พบปะ พูดคุย จัดกิจกรรม และเป็นที่นัดหมายของกลุ่มลูกค้าสตาเลี่ยนส์ โดยไม่คิดมูลค่า เพื่อสร้างสังคมชาวรถจักรยานยนต์มินิให้เหนียวแน่น และที่สำคัญในเรื่องการบริการหลังการขายที่แปลกใหม่ จะช่วยแก้ปัญหาโดยที่ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาศูนย์บริการ เพียงใช้อินเตอร์เน็ตก็จะสามารถแก้ปัญหาของลูกค้าได้
"รถจักรยานยนต์ สตาเลี่ยนส์ มีทั้งหมด 3 ประเภท คือรถครอบครัว ซึ่งภายในปีนี้จะได้เห็นรถรุ่นใหม่หลากหลายสไตล์ที่เคยผ่านตาในงานมอเตอร์โชว์มาจำหน่าย อีกประเภทคือรถ SMEs หรือรถพ่วงข้างที่มาต่อยอดธุรกิจให้กับผู้ใช้ และสุดท้ายเป็นรถอินเทรนด์ซึ่งกำลังโปรโมตอยู่อย่างรถจักรยานยนต์สายพันธุ์ Mini ทั้ง 3 รุ่น คือ Mini MOMO ,Mini GIO และ Mini SOLO
โดยไม่คาดหวังกับยอดขายมากนัก เพราะต้องการโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะถือว่ารถประเภทนี้ยังเป็นกลุ่มเล็กๆ น่าจะเป็นตัวเลือกให้กับผู้ใช้มากกว่า ยังไม่คิดที่จะแข่งกับใครนอกจากแข่งกับตัวเอง และมีเป้าหมายให้เป็นรถได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพได้มาตรฐาน มีบริการหลังการขายเป็นเยี่ยม และสามารถจัดกิจกรรมที่ดี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รกจักรยานยนต์ในตระกูล Mini ได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะรุ่น Mini GIO เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยรูปลักษณ์โดดเด่น และสีทูโทนที่ดูสวยงาม"
เพิ่มเติม http://www.thannews.co.th/
No comments:
Post a Comment